การศึกษาในครั้งนี้ ผู้รายงานมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยมีจุดมุ่งหมายคือ 1) เพื่อสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD
เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค21102 สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2)เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 45 คน ซึ่งได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค21102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติ t-test แบบ Dependent
ผลการศึกษา
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง ทศนิยม
และเศษส่วน รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค21102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
มีความเหมาะสมสอดคล้องในระดับมากที่สุด
2. ผลการวิเคราะห์ระสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค
การสอนแบบ STAD เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพระหว่างเรียน/หลังเรียน เท่ากับ 88.43/86.89 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ค่าดัชนีประสิทธิผลของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิค
การสอนแบบ STAD เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ .7667 ซึ่งแสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 76.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ดัชนีประสิทธิผลที่กำหนดไว้
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค21102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจในระดับมาก (x̄ = 4.38, S = 0.65)