การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ กลุ่มตัวอย่างใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านวังยาว อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 24 คน เครื่องมือที่ใช้ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 8 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้สำหรับนำไปใช้ประกอบจัดการเรียนการสอนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ จำนวน 18 แผน เวลารวมทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบประเภท 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบประเภท 4 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ และวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ มีลักษณะเป็นแบบสอบถามประเภทมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการหาค่าประสิทธิภาพ ด้วยสูตร E1/E2 การหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าสถิติ t-test และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่ามีประสิทธิภาพโดยรวม เท่ากับ 87.60/85.42 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้ชุด
กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการศึกษาการพัฒนาทักษะกระบวนการทาวิทยาศาสตร์ พบว่า นักเรียนชั้นประถม
ศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านวังยาว ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยก่อนเรียนนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 45.27 และหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 88.61
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านวังยาว
ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (µ = 4.35, σ = 0.56) เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทำให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น และรูปเล่มมีความสวยงาม ดึงดูดความสนใจให้นักเรียนอยากจะเรียนและศึกษา รองลงมาคือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีจุดประสงค์ชัดเจน อ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย และนักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้