การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกระบวนการจัดการเรียนรู้
ที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพที่จะช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อที่เรียน และเกิดองค์ความรู้ ที่ถูกต้องในเนื้อหาวิชาได้เป็นอย่างดี การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่เน้นการเชื่อมโยงสู่สถานการณ์จริง เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่เน้นการเชื่อมโยงสู่สถานการณ์จริง เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 3) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่เน้นการเชื่อมโยงสู่สถานการณ์จริง เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่เน้นการเชื่อมโยงสู่สถานการณ์จริง เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 35 คน ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเขวาไร่ศึกษา อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จากประชากร 5 ห้องเรียน จำนวน 163 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 6 แผน (2) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่เน้นการเชื่อมโยงสู่สถานการณ์จริง เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 6 เล่ม (3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (P) ตั้งแต่ 0.44 ถึง 0.72 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.22 ถึง 0.67 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.87 (4) แบบวัดความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ตั้งแต่ 0.27 ถึง 0.78 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่เน้นการเชื่อมโยงสู่สถานการณ์จริง เรื่อง
อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
มีประสิทธิภาพ 83.52/80.19 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์
2. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่เน้นการเชื่อมโยงสู่สถานการณ์จริง เรื่อง
อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6946 คิดเป็นร้อยละ 69.46
3. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่เน้นการเชื่อมโยงสู่สถานการณ์จริง เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีความคงทนในการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่เน้นการเชื่อมโยง
สู่สถานการณ์จริง เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ร่วมกับการจัดการเรียนรู้
แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก
โดยสรุปในการวิจัยครั้งนี้ พบว่า การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เน้นการเชื่อมโยงสู่สถานการณ์จริงสามารถส่งเสริมความก้าวหน้าในการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น มีความคงทนในการเรียนรู้ นักเรียนมีความพึงพอใจที่ดีต่อการเรียนรู้ และสามารถนำไปประกอบ การเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี