ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เรื่องการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมด้วยกระบวนการ pdca ของโรงเรียนบ้านฉลองชัยปีการศึกษา 256

ด้านที่ ๓ ส่วนที่ ๒

รายานผลงานที่ประสบผลสำเร็จด้านการบริหารสถานศึกษา

ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๒

------------------------------------------

๑. ข้อมูลผู้ขอรับการประเมิน

ชื่อ นายอารุณ นามสกุล ปังหลีเส็น

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านฉลองชัย ตำแหน่งเลขที่ 1390

สถานศึกษา/หน่วยงาน โรงเรียนบ้านฉลองชัย อำเภอ/เขต บันนังสตา

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๒

ส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

รับเงินเดือนอันดับ คศ.๒ ขั้น 39,730 บาท

วิทยฐานะที่ขอรับการประเมิน ชำนาญการพิเศษ

๒. การปฏิบัติงานในปีที่ขอรับการประเมิน (ระบุรายการที่ปฏิบัติจริง)

๒.๑ สายงานบริหารสถานศึกษาหน้าที่และความรับผิดชอบ

ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้บริหารตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านฉลองชัย ตำบลเขื่อนบางลาง

อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 2 ได้บริหารงาน 4 ฝ่ายประกอบด้วย ฝ่ายบริหารงานวิชาการ ฝ่ายบริหารงานงบประมาณ ฝ่ายบริหารงานบุคคล ฝ่ายบริหารงานทั่วไป และงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยบริหารงานในรูปแบบการกระจายอำนาจให้บุคลากรมีส่วนร่วม และปฏิบัติหน้าที่ตามหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย มีหน้าที่ในการศึกษาปัญหาความต้องการ และการวางแผนการปฏิบัติงาน ควบคุม กำกับ ดูแลและติดตามประเมินผลในการบริหารแต่ละฝ่ายให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล

2.2 หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษ

ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษดังนี้

2.2.1 คณะกรรมการบริหารงานศูนย์เครือข่ายเขื่อนบางลาง ร่วมบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในศูนย์เครือข่าย เพื่อให้ดำเนินงานอย่างมีคุณภาพ และรับหน้าที่ฝ่ายบริหารงานทั่วไปศูนย์เครือข่าย

2.2.2 คณะกรรมการประสานงานวิชาการการจัดการศึกษาท้องถิ่นระดับองค์กรส่วนท้องถิ่นตำบลเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ทำหน้าที่เลขาคณะกรรมการระดับสถานศึกษา

3. การรายงานผลงานที่ประสบผลสำเร็จด้านการบริหารสถานศึกษา

เรื่องการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมด้วยกระบวนการ pdca

ของโรงเรียนบ้านฉลองชัยปีการศึกษา 2560

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 2

3.1 ความเป็นมา

ในปัจจุบันกระแสยุคไทยแลนด์ 4.0 ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โลกแห่งการสื่อสารโทรคมนาคมและสภาวะทางสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจ มีหลายประเทศได้ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบทางด้านการบริหารการจัดการศึกษาได้มีการเคลื่อนไหวในการนำแนวคิดในการบริหารสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและการกระจายอำนาจทั้งในด้านหลักสูตร งบประมาณและบุคลากรทางการศึกษามาใช้อย่างกว้างขวางขึ้น การปฏิรูประบบการศึกษาจึงเป็นวิถีทางและการพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เป็นคนดี มีความสามารถและความสุข การดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีพลังและมีประสิทธิภาพ จำเป็นที่จะต้องมีการกระจายอำนาจและให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาโดยทำหน้าที่กำกับและส่งเสริมสนับสนุนกิจการของสถานศึกษาทั้งด้านการบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงานงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคลและด้านการบริหารงานทั่วไป ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบการบริหารงานราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 รัฐจึงให้สถานศึกษาเป็นนิติบุคคล เพื่อให้สถานศึกษามีความคล่องตัวมีอิสระและมีความเข้มแข็งโดยได้บัญญัติไว้ในมาตรา 35 สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตาม มาตรา 34 (2) เฉพาะที่เป็นโรงเรียนมีฐานะเป็นนิติบุคคล ซึ่งให้มีการจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัดการศึกษาของไทยมีเอกภาพเชิงนโยบายและมีความหลากหลายในทางปฏิบัติมีการกระจายอำนาจไปสู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา

การกระจายอำนาจดังกล่าวจะทำให้สถานศึกษามีความคล่องตัว มีอิสระในการบริหารการจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพได้มาตรฐานและสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่องพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ. ศ. 2545 ซึ่งเป็นกฎหมายแม่บทสำคัญในการกำหนดให้รัฐบาลและสถานศึกษาดำเนินการหลายอย่างหลายเรื่อง ได้แก่ การจัดระบบการบริหารการศึกษาที่ต้องการกระจายอำนาจให้สถานศึกษาทั้ง ด้านบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงานงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคลและการด้านการบริหารงานทั่วไป ให้สังคมเข้ามีส่วนร่วมในการศึกษาให้สถานศึกษาร่วมกับบุคคล ครอบครัว ชุมชนและสถาบันในสังคม สร้างเสริมความเข้มแข็งของชุมชนโดยกระจัดกระบวนการเรียนรู้ภายในชุมชนทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนการจัดการศึกษาของสถานศึกษาและที่สำคัญ ซึ่งเป็นภารกิจของสถานศึกษาก็คือหลัก ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ให้ถือว่าเป็นผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด ตามมาตรา 29 มาตรา 41 มาตรา 24 ได้กำหนดทิศทางการจัดการศึกษาของชาติได้มุ่งให้การจัด ระบบการบริหารและการจัดการศึกษาของประเทศกระจายอำนาจไปสู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสถานศึกษาและองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา มาตรา 2 กำหนดไว้ว่าการจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญมากที่สุดกระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ และมาตรา 29 กำหนดว่าให้สถานศึกษาร่วมกับบุคคลครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชนองค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนาสถานประกอบการและสถาบันสังคมอื่น ๆ ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนโดยจัดกระบวนการเรียนรู้ ภายในชุมชนเพื่อให้ชุมชนมีการจัดการศึกษาอบรมและรู้จักเลือกสรรภูมิปัญญาและวิทยาการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาชุมชนให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการทางหาวิธีการสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์พัฒนาระหว่างชุมชน (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2542:6-2)

สำหรับประเทศไทยมีการจัดทำพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545 ซึ่งมีสาระสำคัญที่ก่อให้เกิดการปฏิรูประบบการบริหารการศึกษาเป็นอย่างมากและระบุไว้ในหมวดที่ 5 ว่าด้วยการบริหารและการจัดการศึกษาโดยเฉพาะในมาตรา 39 ได้กำหนดให้กระทรวงศึกษาธิการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาทั้งใน ด้านงานวิชาการ ด้านงบประมาณบริหารงานบุคลากรและการบริหารงานทั่วไป ไปยังคณะกรรมการและสำนักงานคณะกรรมการศาสนาและวัฒนธรรมเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาโดยตรงโดยที่หลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎกระทรวง นอกจากนี้ในมาตรา 40 ยังกำหนดให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ของแต่ละสถานศึกษาทำหน้าที่กำกับและส่งเสริมสนับสนุนกิจการของสถานศึกษา

จากนโยบายดังกล่าวสรุปได้ว่า การที่โรงเรียนจะสามารถใช้อำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้การจัดการศึกษามีคุณภาพในระดับที่น่าพอใจจะต้องให้ทุกส่วนของสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ซึ่งจะเป็นการศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อทุกคนในสังคมและจะเป็นการจัดการศึกษาที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งมวล จากสภาพปัจจุบันโรงเรียนบ้านฉลองชัย ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 อำเภอบันนังสตา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2 เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2560 มีนักเรียนจำนวนทั้งสิ้น 80 คุณครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาจำนวน 12 คน

จากการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาของผู้บริหารและบุคลากรโรงเรียน พบว่าสภาพปัญหามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียนเท่าที่ผ่านมาโดยภาพรวมสรุปได้ว่า ๑) ผู้ปกครองนักเรียนชุมชนขาดความเข้าใจและไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาเพราะคิดว่าการจัดการศึกษามีหน้าที่ของโรงเรียนผู้บริหารและครู ๒) ชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่นั้นผู้ปกครองส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ทำงานหารายได้ ขาดความเอาใจใส่บุตรหลาน ๓) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนไม่เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเอง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภาระหน้าที่ของโรงเรียน ๔) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ให้การส่งเสริมและสนับสนุนกับทางโรงเรียน จึงทำให้โรงเรียนต้องพัฒนาตนเองตามศักยภาพที่มีอยู่ส่งผลให้คุณภาพของนักเรียนไม่เท่าเทียมกับนักเรียนที่มีอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีความเจริญ ดังนั้นโรงเรียน ต้องมุ่งบริหารโรงเรียนให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุดโดยนำความคิดการบริหารการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์กรโดยมีความเชื่อว่าพื้นฐานของการบริหารแบบมีส่วนร่วม คือ คุณภาพการศึกษา คุณลักษณะของผู้เรียนและวิธีการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่ทำให้ผู้ปกครองและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหลายมีความเชื่อมั่นหรือพึงพอใจ จึงเป็นภาระหน้าที่ของผู้บริหารจะต้องเป็นผู้สร้างสรรค์คุณภาพให้เกิดขึ้นในองค์กรให้ได้ จากความเป็นมาดังกล่าวจะเห็นได้ว่าการบริหารแบบมีส่วนร่วมส่งผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคลเพราะการจัดการศึกษาต้องมีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะชุมชน ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาโดยทำหน้าที่กำกับและส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาของสถานศึกษาทั้งด้านการบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงานงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคลและด้านการบริหารงานทั่วไป จึงจะบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีพลังและประสิทธิภาพ

3.2 วัตถุประสงค์

3.2.1 เพื่อการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมด้วยกระบวนการ PDCA ของโรงเรียนบ้านฉลองชัย

3.2.2 เพื่อพัฒนาโรงเรียนบ้านฉลองชัยสู่โรงเรียนคุณภาพ

3.3 เป้าหมาย

3.4 วิธีการดำเนินการ

การพัฒนาการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมด้วยกระบวนการ PDCA ของ

โรงเรียนบ้านฉลองชัย มีวิธีการดำเนินงานดังนี้

โรงเรียนบ้านฉลองชัย แบ่งโครงสร้างการบริหารงาน 4 ด้านได้แก่ ด้านการบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงานงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านการบริหารงานทั่วไป ผู้บริหารยึดหลักการบริหาร เทคนิคการบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ใช้โรงเรียนเป็นฐาน คือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายทำงานแบบมีส่วนร่วม โดยมีการร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ และร่วมภาคภูมิใจ วงจรการทำงานแบบ PDCA ในทุกกิจกรรมของโรงเรียนจะมีการติดตามการประเมินการทำงานเป็นระยะ ๆ โดยผู้ได้รับมอบหมายเป็นผู้ที่รับผิดชอบดำเนินการและรายงานผลที่เกี่ยวข้องทราบ

โพสต์โดย อารุณ : [25 พ.ค. 2561 เวลา 09:25 น.]
อ่าน [4954] ไอพี : 171.7.250.4
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 34,494 ครั้ง
แบบคำขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
แบบคำขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

เปิดอ่าน 75,107 ครั้ง
ถึงเวลาปลุก “จิตวิญญาณ” ความเป็น “ครู” ก่อนจะไปถึงการศึกษาไทย 4.0
ถึงเวลาปลุก “จิตวิญญาณ” ความเป็น “ครู” ก่อนจะไปถึงการศึกษาไทย 4.0

เปิดอ่าน 8,792 ครั้ง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง

เปิดอ่าน 15,497 ครั้ง
อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว
อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว

เปิดอ่าน 13,886 ครั้ง
คำว่า สปา มาจากไหน
คำว่า สปา มาจากไหน

เปิดอ่าน 13,165 ครั้ง
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด

เปิดอ่าน 11,019 ครั้ง
วิธีแก้แบตเตอรี่ iPhone-iPad บนiOS 5.1.1 ให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
วิธีแก้แบตเตอรี่ iPhone-iPad บนiOS 5.1.1 ให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 13,162 ครั้ง
ดื่มน้ำอัดลม…ระวังกระดูกพรุน!
ดื่มน้ำอัดลม…ระวังกระดูกพรุน!

เปิดอ่าน 14,336 ครั้ง
 วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 381,157 ครั้ง
คำศัพท์ที่มีการใช้มากที่สุดในภาษาอังกฤษ 500 อันดับแรก
คำศัพท์ที่มีการใช้มากที่สุดในภาษาอังกฤษ 500 อันดับแรก

เปิดอ่าน 16,579 ครั้ง
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ

เปิดอ่าน 21,920 ครั้ง
คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถร้อน ลองอ่านบทความนี้ดู !!
คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถร้อน ลองอ่านบทความนี้ดู !!

เปิดอ่าน 15,245 ครั้ง
ผู้อยู่ลำดับสี่ในตารางสัมภาษณ์งาน มีโอกาสได้งานทำมากที่สุด ผลการวิจัยบอก
ผู้อยู่ลำดับสี่ในตารางสัมภาษณ์งาน มีโอกาสได้งานทำมากที่สุด ผลการวิจัยบอก

เปิดอ่าน 14,500 ครั้ง
สารพัดวิธีกินผักแบบเนียน ๆ อร่อยไม่ฝืนใจแถมได้ประโยชน์
สารพัดวิธีกินผักแบบเนียน ๆ อร่อยไม่ฝืนใจแถมได้ประโยชน์

เปิดอ่าน 80,428 ครั้ง
สำนวนไทย
สำนวนไทย

เปิดอ่าน 10,331 ครั้ง
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี
เปิดอ่าน 38,088 ครั้ง
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
เปิดอ่าน 17,531 ครั้ง
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่
เปิดอ่าน 15,411 ครั้ง
Flash Drive ปัญหาไวรัสเรื่องใหญ่
Flash Drive ปัญหาไวรัสเรื่องใหญ่
เปิดอ่าน 9,895 ครั้ง
ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นโยบายปฏิรูปที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด
ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นโยบายปฏิรูปที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ