|
|
การวิจัยปฏิบัติการเพื่อพัฒนาคุณภาพการทำโครงงานสะเต็มศึกษาผ่านวงจรการสะท้อนคิด 5 ประการ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีจุดประสงค์ในการวิจัย 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการตามแนวสะเต็มศึกษาในการพัฒนาคุณภาพในการทำโครงงานสะเต็มศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ดำเนินการผ่านการวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม 2) ศึกษาผลของการใช้แผนการจัดการเรียนบูรณาการที่สร้างขึ้นด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพในการทำโครงงานสะเต็มศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวนนักเรียนที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 13 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มโครงงาน กลุ่มโครงงานที่ 1 มีสมาชิก 5 คน กลุ่มโครงงานที่ 2 มี สมาชิก 3 คน กลุ่ม โครงงานที่ 3 มี สมาชิก 5 คน การแบ่งกลุ่มโครงงานใช้การแบ่งกลุ่มนักเรียนตามความสามารถ ผลการวิจัยพบว่า 1) ได้แผนการจัดการเรียนรู้บรูณาการสะเต็มศึกษาจำนวน 20 ชั่วโมง 2)ผลการสะท้อนคิดของนักเรียนขั้นตอนของการระบุปัญหา (problem identification) นักเรียนสามารถระบุปัญหาที่ได้รับและทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาหรือสถานการณ์การที่ครูกำหนดไว้ได้ ซึ่งบางกลุ่มอาจจะมีความรู้เดิมอยู่แล้ว และนักเรียนทั้งหมดมีวิธีการที่จะแก้ปัญหาแต่ยังไม่หลากหลาย นอกจากนี้ ขั้นตอนของการรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา (related information search) พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่สามารถสืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ตได้ และมีความเข้าใจว่าปัญหานั้นจะถูกแก้ไขได้โดยใช้การบูรณาการหลายวิชาเข้าด้วยกัน นักเรียนส่วนใหญ่สืบค้นมาเกี่ยวข้องกับสะเต็มศึกษา ขั้นตอนของการออกแบบวิธีการแก้ปัญหา (solution design) นักเรียนทุกกลุ่มสามารถคิดค้นวิธีการหรือชิ้นงานในการแก้ปัญหาออกมาได้ไม่น้อยกว่ากลุ่มละ 2 วิธีการและสามารถนำความรู้จากสะเต็มศึกษามาใช้ได้อย่างเหมาะสม ขั้นตอนของการวางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา (planning and development) นักเรียนส่วนใหญ่เรียนรู้จุดอ่อนของวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงานที่สร้างขึ้น บางจุดก่อนจะลงมือสร้างจริง ขั้นตอนของการทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน นักเรียนส่วนใหญ่ สามารถปรับปรุงชิ้นงานหรือวิธีการที่กลุ่มของตนทดลองใช้ ได้ ทั้งนี้บางกลุ่มอาจจะมีปัญหาเนื่องจากเป็นวิธีการไม่ใช่ชิ้นงาน จึงต้องปรึกษาครูที่ปรึกษาโครงงานและรวบรวมข้อมูลในการแก้ปัญหาอีกครั้งหนึ่งก่อนดำเนินการใช้จริง ขั้นตอนของการนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน (presentation) นักเรียนส่วนใหญ่สามารถ ยอมรับข้อเสนอแนะและจะดำเนินการปรับปรุงผลงานนั้นต่อไป ผลการวิเคราะห์ การพัฒนาการแล้วนั้นพบว่า กลุ่มที่มีการพัฒนาการระดับสูงได้แก่กลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 3 มีค่าการพัฒนาการอยู่ในระดับปานกลาง
|
โพสต์โดย แดน : [16 พ.ค. 2561 เวลา 12:39 น.] อ่าน [5052] ไอพี : 171.6.247.182
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 10,514 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,687 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,046 ครั้ง
| เปิดอ่าน 75,849 ครั้ง
| เปิดอ่าน 48,237 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,187 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,093 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,187 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,900 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,474 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,684 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,530 ครั้ง
| เปิดอ่าน 52,044 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,604 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,825 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 19,780 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,178 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,244 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,074 ครั้ง
| เปิดอ่าน 618 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|