ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (รูปแบบ GI)
โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และการเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้ศึกษา นายตรัยพสิษฐ์ เสรีนวกุล
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (GI) และใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และการเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (GI) โดยใช้แบบฝึกทักษะ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และการเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านน้ำช้างพัฒนา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 จำนวน 8 คน โดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (GI) 2) แบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และการเขียน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (GI) โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และการเขียน
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และt-test (Dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
1) แบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และการเขียน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.06/87.95 แสดงว่าแบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และการเขียน
มีประสิทธิภาพ สูงกว่าเกณฑ์
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย หลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (GI) โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และการเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (GI)โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ในภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก