ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้รายงาน นางอัญชลียา กิติโรจน์

ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

โรงเรียนอนุบาลแม่เมาะ (ชุมชน 1) อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง

ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลแม่เมาะ (ชุมชน 1) อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปางให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 และเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ รวมทั้งเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลแม่เมาะ (ชุมชน 1) อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนอนุบาลแม่เมาะ (ชุมชน 1) อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 8 เล่ม แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน จำนวน 30 ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ 1 ฉบับ จำนวน 10 ข้อ ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test

ผลการศึกษา พบว่า ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะจำนวน 8 เล่มมีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 โดยรวมเท่ากับ 82.32/81.79 เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80 และผลการเปรียบ เทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลแม่เมาะ (ชุมชน 1) อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ก่อนและหลังจากการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วนมีค่า t-test เท่ากับ 36.76 ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .01 แสดงว่า ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนมีความแตกต่างกันโดยหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียน คือ ค่าเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 24.54 ก่อนเรียนเท่ากับ 17.25 มีค่าความแตกต่างเฉลี่ยเท่ากับ 7.29 แสดงว่า ผลการเปรียบเทียบ ครั้งนี้เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.20 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.71 โดยมีความพึงพอใจที่สามารถคิดคำนวณได้มากขึ้นมากกว่าด้านอื่น

โพสต์โดย อัญ : [15 พ.ค. 2561 เวลา 14:08 น.]
อ่าน [65479] ไอพี : 182.53.242.48
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,968 ครั้ง
"จ๊อบไทย" ชี้ 5 คุณสมบัติที่องค์กรต้องการจากคนทำงานรุ่นใหม่
"จ๊อบไทย" ชี้ 5 คุณสมบัติที่องค์กรต้องการจากคนทำงานรุ่นใหม่

เปิดอ่าน 13,368 ครั้ง
ความเสียหายจากมหาวิทยาลัยไทยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน
ความเสียหายจากมหาวิทยาลัยไทยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน

เปิดอ่าน 11,931 ครั้ง
วิจัยพบการดื่ม "กาแฟ-ชา" อาจลดเสี่ยง "สโตรก-สมองเสื่อม"
วิจัยพบการดื่ม "กาแฟ-ชา" อาจลดเสี่ยง "สโตรก-สมองเสื่อม"

เปิดอ่าน 17,086 ครั้ง
การปรับชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ
การปรับชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 15,270 ครั้ง
สารพัดวิธี เบิร์น 100 กิโลแคลอรี่ แค่ไม่ถึงชั่วโมง แบบง่ายๆ
สารพัดวิธี เบิร์น 100 กิโลแคลอรี่ แค่ไม่ถึงชั่วโมง แบบง่ายๆ

เปิดอ่าน 12,574 ครั้ง
แก๊งขโมยหมา ลักหมาไปขาย ออกอาละวาดที่จีน
แก๊งขโมยหมา ลักหมาไปขาย ออกอาละวาดที่จีน

เปิดอ่าน 14,036 ครั้ง
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท

เปิดอ่าน 9,279 ครั้ง
วิธีปลูกผักชีในกระถาง
วิธีปลูกผักชีในกระถาง

เปิดอ่าน 23,947 ครั้ง
วัฎจักรการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการวิจัย (Internet research cycle)
วัฎจักรการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการวิจัย (Internet research cycle)

เปิดอ่าน 64,595 ครั้ง
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มีอะไรบ้าง?
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มีอะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 41,723 ครั้ง
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต

เปิดอ่าน 9,817 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย ไปทางไหน ?
ปฏิรูปการศึกษาไทย ไปทางไหน ?

เปิดอ่าน 12,972 ครั้ง
รูดซิป"กูเกิล ดูเดิล" เปิดประวัติ "กิเดียน ซุนด์แบกด์" ผู้ให้กำเนิด"ซิป"คนแรกของโลก
รูดซิป"กูเกิล ดูเดิล" เปิดประวัติ "กิเดียน ซุนด์แบกด์" ผู้ให้กำเนิด"ซิป"คนแรกของโลก

เปิดอ่าน 3,237 ครั้ง
นมฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุ
นมฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุ

เปิดอ่าน 24,485 ครั้ง
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนถนัดขวามีมากกว่าคนถนัดซ้าย
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนถนัดขวามีมากกว่าคนถนัดซ้าย

เปิดอ่าน 29,798 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
เปิดอ่าน 90,067 ครั้ง
โรงเรียนร่วมพัฒนา(Partnership School)
โรงเรียนร่วมพัฒนา(Partnership School)
เปิดอ่าน 944 ครั้ง
 แอปกู้เงิน ตัวช่วยแก้ปัญหาฉุกเฉินที่คนรายได้น้อยยุคใหม่ต้องรู้!
แอปกู้เงิน ตัวช่วยแก้ปัญหาฉุกเฉินที่คนรายได้น้อยยุคใหม่ต้องรู้!
เปิดอ่าน 29,313 ครั้ง
หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่องที่ 1...ไหว้ครู
หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่องที่ 1...ไหว้ครู
เปิดอ่าน 9,414 ครั้ง
สตรีผู้ทรงอิทธิพลปี 2009
สตรีผู้ทรงอิทธิพลปี 2009

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ