ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2
เรื่อง แสงและการเห็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
ผู้วิจัย นายธีรพงษ์ จะโนรัตน์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
หน่วยงาน โรงเรียนภูกระดึงวิทยาคม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แสงและการเห็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ความสัมพันธ์ด้านกระบวนการและผลลัพธ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แสงและการเห็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้วิชาฟิสิกส์ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แสงและการเห็น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนภูกระดึงวิทยาคม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาจากวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 4 ประเภท คือ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้วิชาฟิสิกส์ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แสงและการเห็น 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบ ซึ่งมี 2 ประเภท คือ แบบทดสอบประจำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้ทดสอบระหว่างเรียน และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แสงและการเห็น 4) แบบประเมินความพึงพอใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้วิชาฟิสิกส์ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แสงและการเห็น
การวิจัยครั้งนี้ ใช้รูปแบบการทดลองแบบกลุ่มเดียวมีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน(One group pretest - post test design) แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ โดยใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติทดสอบที (t-test) แบบ Dependent Samples และให้นักเรียนตอบแบบประเมินความพึงพอใจ แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ โดยใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที (t-test) แบบ One Sample
ผลการวิจัย พบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้วิชาฟิสิกส์ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แสงและการเห็น มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ความสัมพันธ์ด้านกระบวนการกับผลลัพธ์ เท่ากับ 79.73/78.30 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แสงและการเห็น ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 14.08 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 31.32) และนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้วิชาฟิสิกส์ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง แสงและการเห็น มีความพึงพอใจเฉลี่ยอยู่ใน ระดับมาก (x̄ = 4.49, S.D. = 0.21) และเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของนักเรียนกับเกณฑ์ ระดับมาก พบว่า สูงกว่าเกณฑ์ระดับมาก (ระดับ 4) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01