ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและ
อบายมุขของ โรงเรียนบ้านทุ่งสีเสียด ปีการศึกษา 2560
ชื่อผู้รายงาน นายวัฒนชัย ปัตเมฆ
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
รายงานการประเมินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขของ โรงเรียนบ้านทุ่งสีเสียด ปีการศึกษา 2560 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขของโรงเรียนบ้านทุ่งสีเสียด ปีการศึกษา 2560 โดยประยุกต์รูปแบบจำลองซิป (CIPP Model) ประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม ด้านความพร้อมของปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต พร้อมทั้งเปรียบเทียบความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ระหว่าง ครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ประชากรในการศึกษา ได้แก่ ครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านทุ่งสีเสียด จำนวน 325 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู นักเรียนผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านทุ่งสีเสียด รวม 141 คน ได้มาโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ (1) แบบสอบถามความคิดเห็นการประเมินผลการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข (2) แบบสัมภาษณ์ และมีการจัดทำ Focus Group ภายในโรงเรียน 1 ครั้ง การวิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความเรียงจากแบบสัมภาษณ์และจากการทำ Focus Group
ผลการศึกษาพบว่า
1. การดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขของโรงเรียนบ้าน ทุ่งสีเสียด ปีการศึกษา 2560 โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก
2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อการดำเนินงานโครงการสถานศึกษา สีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขของโรงเรียนบ้านทุ่งสีเสียด ปีการศึกษา 2560 ระหว่างครู นักเรียนผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่าไม่แตกต่างกัน
3. แนวทางในการพัฒนาโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ของโรงเรียนบ้านทุ่งสีเสียด มีดังนี้
3.1 ครูที่ปรึกษาต้องให้ความสำคัญกับการคัดกรองนักเรียน และการช่วยเหลือนักเรียนในเบื้องต้นให้มากกว่านี้
3.2 การส่งต่อนักเรียนระหว่างครูที่ปรึกษากับครูแนะแนวจะต้องทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้
3.3 ครูต้องช่วยกันแจ้งพฤติกรรมนักเรียนที่ไม่พึงประสงค์ไปยังฝ่ายปกครองไม่ควรปล่อยปละละเลย
3.4 ควรเพิ่มบุคลากรต้านงานป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด
3.5 ควรจัดให้มีวิทยุสื่อสารระหว่างบุคลากรฝ่ายปกครอง
3.6 ควรปรับตู้แดงเสมารักษ์เป็นไลน์เสมารักษ์เนื่องจากนักเรียนไม่กล้าแจ้งเบาะแสและไม่รวดเร็ว
3.7 ควรพัฒนางานคลินิกเสมารักษ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3.8 การอบรมหน้าเสาธงควรมีการสอดแทรกเรื่องยาเสพติดให้บ่อยขึ้น
3.9 ควรจัดให้มีใบเขียวใบแดง (การเพิ่ม และการหักคะแนนความประพฤติ)
3.10 ควรให้ครอบครัวมีส่วนรับทราบปัญหามากขึ้นทั้งนี้ส่วนใหญ่นักเรียนอยู่กับปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งดูแลนักเรียนไม่ค่อยได้
3.11 รณรงค์ไม่ให้ร้านค้าขายบุหรี่และสิ่งเสพติดให้กับนักเรียน
3.12 ประสานหน่วยงานภายนอกให้เข้ามาดูแลเรื่องสิ่งเสพติดในชุมชนโดยรอบ
3.13 พัฒนาสถานที่โดยรอบบริเวณโรงเรียนให้สะอาดไม่ให้มีมุมอับ ไม่ให้มีป่ารก
3.14 ครูทุกคนควรช่วยกันทำงานอาศัยเฉพาะครูปกครองจะทำให้งานล่าช้าไม่ทันเหตุการณ์
3.15 การแจ้งเรื่องราวครูต้องแจ้งเรื่องราวไปที่ฝ่ายปกครองทันทีที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์หากละเลยจะทำให้ปัญหาบานปลาย
3.16 ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลนักเรียน
3.17 จัดให้มีห้องคลินิกเสมารักษ์
3.18 ผู้บริหารต้องมีการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานด้านนี้มากขึ้น
3.19 การออกเยี่ยมบ้านต้องทำ 100 เปอร์เซ็นต์
3.20 ให้ความรู้ผู้ปกครองในการดูแลและตักเตือนนักเรียน
3.21 ให้มีการประสานงานกันมากขึ้นภายในโรงเรียนเนื่องจากยังมีลักษณะต่างคนทำ
3.22 ควรมีมาตรการที่เด็ดขาด เอาจริงกับนักเรียนกลุ่มค้า