ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
ผู้วิจัย นิสสรณ์ กัณฑษา
ประเภทงานวิจัย งานวิจัยและพัฒนา
คำสำคัญ รูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาของการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 3) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 4) เพื่อประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
วิธีการวิจัยมี 4 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1) การศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนคาบกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยการศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และการสำรวจความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนในคาบกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ตอนที่ 2) การสร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model โดยการสนทนากลุ่มจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน ตอนที่ 3) การหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ ครูผู้สอนโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 122 คน ซึ่งการได้มาของกลุ่มตัวอย่างเป็นแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือเป็นแบบสอบถามลักษณะมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความคิดเห็น และตอนที่ 4) การประเมินประสิทธิผล การใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในตอนนี้ มี 2 กลุ่ม ได้แก่ 4.1) ครูผู้สอนโรงเรียนบ้านสายคำโห้ จำนวน 10 คน และครูผู้สอนโรงเรียนชุมชนวัดคลอง คะเชนทร์ จำนวน 12 คน รวมทั้งสิ้น 22 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ซึ่งการได้มาของกลุ่มตัวอย่างเป็นแบบเฉพาะเจาะจง 4.2) นักเรียนโรงเรียนบ้านสายคำโห้ จำนวน 31 คน นักเรียนโรงเรียนชุมชนวัดคลองคะเชนทร์ จำนวน 61 คน รวมทั้งสิ้น 92 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ซึ่งการได้มาจากการเปิดตารางสำเร็จรูปของ Yamane เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความคิดเห็น
ผลการวิจัยพบว่า
กกกกกกกตอนที่ 1 สภาพปัจจุบันการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในคาบกิจกรรมสังคมและสาธารณประโยชน์ ส่วนใหญ่สถานศึกษามุ่งเน้นการปลูปฝังคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมในลักษณะจิตอาสาให้กับนักเรียน กิจกรรมส่วนใหญ่จัดในรูป จิตสาธารณะ
โดยอาจจะบูรณาการกับ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือกิจกรรมชุมนุม แนะแนว ลูกเสือ หรือโครงงาน การจัดกิจกรรมสามารถทำได้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
ปัญหาที่พบ คือ นักเรียนไม่มีทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการตัดสินใจ นักเรียนยอมรับแบบอย่างที่ไม่ถูกต้องมาประพฤติปฏิบัติ ยังขาดความรับผิดชอบ และเห็นประโยชน์ของตนมากกว่าส่วนรวม ส่วนสถานศึกษาจัดกิจกรรมไม่ได้ดุลย์ของผู้เรียนที่ต้องเป็นคนดี คนเก่ง และอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข ที่ผ่านมาสถานศึกษายังจัดกิจกรรมไม่ตอบสนองความต้องการ ความสนใจ และความแตกต่างของผู้เรียน ไม่มีคาบกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ทั้ง ๆ ที่มีโครงสร้างในหลักสูตร ส่วนครูไม่มีแผนการจัดกิจกรรม
การสำรวจความต้องการในการทำกิจกรรมของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีระดับปฏิบัติพฤติกรรมจิตสาธารณะทำเป็นบางครั้ง กิจกรรมที่เคยทำมากที่สุด คือ กิจกรรมการพูดหน้าห้องเรียน กิจกรรมที่นักเรียนชอบทำมากที่สุดคือ การแสดงบทบาทสมมุติ กิจกรรมที่นักเรียนอยากทำมากที่สุด คือกิจกรรมสำรวจชุมชนและทัศนศึกษา คุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่นักเรียนต้องการพัฒนามากที่สุด คือ การมีจิตสาธารณะ กิจกรรมที่นักเรียนใช้เวลาทำมากทีสุดคือ การใช้เทคโนโลยี นักเรียนอยากให้ครูจัดกิจกรรมในคาบกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์มากที่สุด คือ คุณค่าจิตสาธารณะ โครงการจิตสาธารณะ และ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตามลำดับ แหล่งเรียนรู้ที่นักเรียนนิยมมากที่สุด คือ Internet, แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัด, สนามกีฬา, แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ ตามลำดับ การนำเสนอผลงาน ได้แก่ ใช้ QR code, แสดงบทบาทสมมุติ, การจัดป้ายนิเทศ สำหรับความตะหนักรู้ในคุณค่าความรับผิดชอบมากที่สุดคือ ความตะหนักรู้ในคุณค่าความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อประเทศชาติ ต่อสังคม และต่อชุมชน ตามลำดับ
ตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จากการนำข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ครู และการสำรวจนักเรียน ผู้วิจัยจึงนำมาจัดสร้างรูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ประกอบด้วย N = New (ขบคิด หลอมรวม รู้ใหม่), I = Innovation Idea (ใส่ใจ สร้างสรรค์ ล้ำสมัย), T = Teach by not teach (รอบรู้ สร้างฝัน ร่วมใจ) ประกอบด้วย ทักษะการค้นคว้า ทักษะการผลิตผลงาน ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ทักษะการให้ความร่วมมือ และ ทักษะการประเมิน, S = Satisfication (สุขใด ให้ด้วยไมตรีจิต), O = Openly (สื่อสาร ร่วมคิด เปิดเผยได้), R = Responsibility (รับผิดชอบ เคารพสิทธิ์ มีวินัย), N = Knowledge (นำแนวคิด มาปรับใช้ ไม่หมดสิ้น) ได้แก่การคิดแก้ปัญหา สร้างสรรค์ผลงาน การให้ความร่วมมือ การสื่อสารประชาสัมพันธ์
ตอนที่ 3 ผลการหาประสิทธิภาพการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น อยู่ในระดับเหมาะสมมาก และพิจารณาทุกองค์ประกอบ พบว่า อยู่ในระดับเหมาะสมมาก
ตอนที่ 4 การประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
ส่วนที่ 1 การประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน NITSORN Model สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
กกกกกกก 4.1 ครูผู้สอนมีความเห็นต่อจิตสาธารณะของนักเรียนมีระดับปฏิบัติทำบ่อยครั้ง ทั้งด้านการช่วยเหลือผู้อื่น และด้านการเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม
4.2 นักเรียนมีความเห็นต่อจิตสาธารณะของนักเรียน ในภาพรวม มีระดับปฏิบัติ ทำเป็นประจำ โดยที่ด้านการช่วยเหลือผู้อื่น มีระดับปฏิบัติทำเป็นประจำ และด้านการเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม มีระดับปฏิบัติทำบ่อยครั้ง
ส่วนที่ 2 การประเมินด้านคุณค่าและความน่าสนใจ และผลที่เกิดกับผู้เรียน
นักเรียนมีความเห็นต่อการจัดกิจกรรมพัฒนาจิตสาธารณะของนักเรียน ในระดับมากที่สุดทั้งด้านคุณค่าและความน่าสนใจ และผลที่เกิดกับผู้เรียน