ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ด้วยกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์แสนสนุก ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2

เรื่อง : รายงานผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ด้วยกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์

แสนสนุก ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2

ชื่อผู้ศึกษา : นางสาวปาริชาติ คำลือ

ครูชำนาญการ โรงเรียนวัดห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1

ปีการศึกษา : 2560

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์

ด้วยกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์แสนสนุกของเด็ก ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรม จำแนกเป็นรายด้านและภาพรวม และเพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ด้วยกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์แสนสนุกของเด็ก ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนวัดห้วยแก้ว ระหว่างการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา จำแนกเป็นรายด้านและภาพรวม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยแผนการจัดประสบการณ์การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ด้วยกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์ แสนสนุก ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนวัดห้วยแก้ว ประกอบด้วย 10 หน่วย จำนวน 30 แผน คู่มือการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ด้วยกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์แสนสนุก ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนวัดห้วยแก้ว จำนวน 30 กิจกรรม และแบบทดสอบการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ด้วยกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์แสนสนุก ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียน วัดห้วยแก้ว ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา จำนวน 10 เกม(ข้อ) ประกอบด้วยทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ จำนวน 5 ด้าน ได้แก่ 1)ด้านการนับ 2)ด้านการจัดประเภท 3)ด้านการเปรียบเทียบ 4)ด้านการเรียงลำดับ 5)ด้านรูปเรขาคณิต ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 อายุ 5 – 6 ปี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนวัดห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 จำนวน 36 คน การดำเนินการจัดกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2560 จนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 การศึกษาครั้งนี้ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 10 สัปดาห์ จัดกิจกรรมสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที ในช่วงเวลาของกิจกรรมเกมการศึกษา รวมทั้งสิ้น 30 ครั้ง ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองศึกษาจากประชากรกลุ่มเดียว วัดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนและหลังการทดลอง ผู้ศึกษาได้ดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผน และคู่มือการจัดกิจกรรมรวม 30 ครั้ง เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างกิจกรรม ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์แสนสนุก มาวิเคราะห์หาค่าทางสถิติ โดยใช้สถิติพื้นฐานหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และนำเสนอข้อมูลในรูปของตาราง และแผนภูมิประกอบคำบรรยาย

ผลการศึกษาปรากฏ ดังนี้

1. ผลการเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ หลังการจัดกิจกรรมสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์แสนสนุก พบว่า หลังการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ย 54.90 ก่อนการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ย 43.61 ความก้าวหน้ามีคะแนนเฉลี่ย 11.29 คิดเป็นร้อยละ 18.82 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1

2. ผลการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ระหว่างการจัดกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์

แสนสนุก ของเด็กระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ได้พัฒนาทักษะจำนวน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการนับ การจัดประเภท การเปรียบเทียบ การเรียงลำดับ และรูปเรขาคณิต ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมทักษะละ 12 กิจกรรม ใช้เวลาทั้งสิ้น 10 สัปดาห์ พบว่า ผลการพัฒนาดีขึ้นตามลำดับ โดยด้านการนับ มีคะแนนเฉลี่ย 2.16 คิดเป็นร้อยละ 72.14 ด้านการจัดประเภท มีคะแนนเฉลี่ย 2.23 คิดเป็นร้อยละ 74.46 ด้านการเปรียบเทียบ มีคะแนนเฉลี่ย 2.31 คิดเป็นร้อยละ 77.16 ด้านการเรียงลำดับ มีคะแนนเฉลี่ย 2.32 คิดเป็นร้อยละ 77.39 และด้านรูปเรขาคณิต มีคะแนนเฉลี่ย 2.36 คิดเป็นร้อยละ 78.63 และในภาพรวมพบว่ามีคะแนนสูงขึ้นตามลำดับทั้ง 12 กิจกรรม ดังนี้ กิจกรรมที่ 1 มีคะแนนเฉลี่ย 1.43 คิดเป็นร้อยละ 47.78 กิจกรรมที่ 2 มีคะแนนเฉลี่ย 1.47 คิดเป็นร้อยละ 49.07 กิจกรรมที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ย 1.50 คิดเป็นร้อยละ 50.00 กิจกรรมที่ 4 มีคะแนนเฉลี่ย 2.21 คิดเป็นร้อยละ 73.70 กิจกรรมที่ 5 มีคะแนนเฉลี่ย 2.34 คิดเป็นร้อยละ 78.15 กิจกรรมที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ย 2.40 คิดเป็นร้อยละ 80.19 กิจกรรมที่ 7 มีคะแนนเฉลี่ย 2.47 คิดเป็นร้อยละ 82.41 กิจกรรมที่ 8 มีคะแนนเฉลี่ย 2.56 คิดเป็นร้อยละ 85.37 กิจกรรมที่ 9 มีคะแนนเฉลี่ย 2.64 คิดเป็นร้อยละ 88.15 กิจกรรมที่ 10 มีคะแนนเฉลี่ย 2.67 คิดเป็นร้อยละ 90.92 กิจกรรมที่ 11 มีคะแนนเฉลี่ย 2.76 คิดเป็นร้อยละ 92.04 กิจกรรมที่ 12 มีคะแนนเฉลี่ย 2.81 คิดเป็นร้อยละ 93.70 จะเห็นว่าทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ทุกทักษะมีลักษณะการพัฒนาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 2

โพสต์โดย Yui : [6 พ.ค. 2561 เวลา 00:15 น.]
อ่าน [67076] ไอพี : 182.232.176.215
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,507 ครั้ง
ทางออกของวิกฤตการศึกษาไทยภายใต้การใช้อำนาจตาม ม.44 ของ คสช.
ทางออกของวิกฤตการศึกษาไทยภายใต้การใช้อำนาจตาม ม.44 ของ คสช.

เปิดอ่าน 2,691 ครั้ง
5 วิธีปกป้องตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์
5 วิธีปกป้องตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์

เปิดอ่าน 17,251 ครั้ง
นวดหน้าลดริ้วรอย
นวดหน้าลดริ้วรอย

เปิดอ่าน 9,108 ครั้ง
คุณครูกับคนดี โดย กล้า สมุทวณิช
คุณครูกับคนดี โดย กล้า สมุทวณิช

เปิดอ่าน 51,532 ครั้ง
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร

เปิดอ่าน 13,532 ครั้ง
มข.ค้นพบยีสต์สายพันธุ์ใหม่ แบ่งตัวเร็ว ผลิตเอทานอลสูง
มข.ค้นพบยีสต์สายพันธุ์ใหม่ แบ่งตัวเร็ว ผลิตเอทานอลสูง

เปิดอ่าน 16,045 ครั้ง
กินวิตามินอย่างไรให้ได้ประโยชน์
กินวิตามินอย่างไรให้ได้ประโยชน์

เปิดอ่าน 23,530 ครั้ง
16 ของมงคล แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย!!
16 ของมงคล แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย!!

เปิดอ่าน 28,280 ครั้ง
การตัดแต่งต้นไม้
การตัดแต่งต้นไม้

เปิดอ่าน 26,214 ครั้ง
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.

เปิดอ่าน 12,690 ครั้ง
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน

เปิดอ่าน 13,546 ครั้ง
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 19,365 ครั้ง
หนอนไหม
หนอนไหม

เปิดอ่าน 13,490 ครั้ง
มะนาวฆ่ามะเร็ง เรื่องนี้เชื่อได้จริงหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์ ?
มะนาวฆ่ามะเร็ง เรื่องนี้เชื่อได้จริงหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์ ?

เปิดอ่าน 14,627 ครั้ง
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร

เปิดอ่าน 21,037 ครั้ง
กำเนิดหมากฝรั่ง
กำเนิดหมากฝรั่ง
เปิดอ่าน 10,352 ครั้ง
ระวังตกเป็นคนนิสัยเสียโดยไม่รู้ตัว
ระวังตกเป็นคนนิสัยเสียโดยไม่รู้ตัว
เปิดอ่าน 18,961 ครั้ง
เหล็กปลอม ดูกันชัดๆ มันเป็นยังไง (ชมคลิป)
เหล็กปลอม ดูกันชัดๆ มันเป็นยังไง (ชมคลิป)
เปิดอ่าน 13,854 ครั้ง
ชีวิตยิ่งใช้ ยิ่งได้กำไรกลับคืน
ชีวิตยิ่งใช้ ยิ่งได้กำไรกลับคืน
เปิดอ่าน 11,368 ครั้ง
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ