การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ
หาความรู้ 7 ขั้น ประกอบแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา วิชาฟิสิกส์ เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ
หาความรู้ 7 ขั้น ประกอบแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา และ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ประกอบแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา วิชาฟิสิกส์ เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา
ครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนนครขอนแก่น
จำนวน 268 คน ซึ่งมีการจัดชั้นเรียนแบบคละกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 6/2 จำนวน 40 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random
Sampling) โดยการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 9 แผนการจัดการเรียนรู้ (2) แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา จำนวน 6 เล่ม
(3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 1 ฉบับ จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.87 และ (4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 15 ข้อ ดำเนินการทดลองเพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา ตามกระบวนการ 1:1 ปรับปรุงในส่วนที่บกพร่องและทดลองซ้ำตามกระบวนการ 1:3 ปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์และนำไปทดลองตามกระบวนการ 1:100 หรือภาคสนาม ซึ่งได้ค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา (E1/E2) เท่ากับ 67.04/58.89, 70.86/70.37 และ 80.63/80.42 ตามลำดับ แล้วนำแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาไปใช้ประกอบการเรียนการสอนกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง
ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้น นำผลการทดลองมาหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ (E1/E2) ใช้ค่าสถิติ t-test เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และใช้ค่า และ S.D. ในการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้
ผลการศึกษาพบว่า (1) การจัดการเรียนรู้โดยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น
ประกอบแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา วิชาฟิสิกส์ เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.47/80.33 (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 6/2 ที่เรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่อง ฟิสิกส์นิวเคลียร์ โดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา
ความรู้ 7 ประกอบแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา พบว่า ค่าคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบหลังเรียน
สูงกว่าก่อนเรียน ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า
ค่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
(3) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ประกอบแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา โดยส่วนรวมมีค่าคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 อยู่ในระดับ ความพึงพอใจมากที่สุด