การวิจัยเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสะท้อนคิดและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 วัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) ศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) ศึกษาความสามารถด้านการเขียนสะท้อนคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรม การอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท และ 4) ศึกษาความ พึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 5 ชนิด คือ 1) ชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท จำนวน 6 แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบประเมินความสามารถในการเขียนสะท้อนคิด และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและร้อยละ
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ 82.14/81.57 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ผลการใช้ชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีรายละเอียด ดังนี้
2.1) ผลการศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) จากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ทประกอบชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาภาษาไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.6561 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6561 หรือคิดเป็นร้อยละ 65.61
2.2) ผลการทดสอบเมื่อเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิต
ตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนแตกต่างจากก่อนเรียน
3. ผลการศึกษาความสามารถด้านการเขียนสะท้อนคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีความสามารถด้านการเขียนสะท้อนคิดโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ ของค่าเฉลี่ยเท่ากับ 73.13 เมื่อพิจารณารายการประเมินแต่ละด้าน พบว่าด้าน การใช้ภาษามีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ร้อยละ 80.35 ด้านกลไกประกอบการเขียน มีค่าเฉลี่ยรองลงมา คือ ร้อยละ 80.20 ส่วนด้านการแสดงความรู้สึกนึกคิดมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือร้อยละ 61.60
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยด้วยชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พิจารณาในแต่ละด้านพบว่า ด้านที่มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด คือด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ ส่วนด้านการวัดและประเมินผลมีระดับความพึงพอใจ ต่ำที่สุด
จากการการพัฒนาชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสะท้อนคิดและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผู้วิจัยได้ศึกษาและทำตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบและวิธีการ ที่เหมาะสม จึงทำให้ชุดกิจกรรมการอ่านวรรณคดีไทย เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย โดยการประยุกต์ใช้กลวิธีมัลติพาร์ท เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเขียนสะท้อนคิดและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้