|
|
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา 3 ประการ คือ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านควนสตอ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านควนสตอ และ3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านควนสตอ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านควนสตอ ปีการศึกษา 2560 จำนวน 21 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านการเขียน
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย มีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์ 80/80 โดยมีค่าประสิทธิภาพ E1 เท่ากับ 82.12 และค่าประสิทธิภาพ E2 เท่ากับ 83.52 ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย
2. ผลการประเมินผลก่อนและหลังเรียนที่ใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย พบว่า นักเรียนมีทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทยสูงขึ้น โดยที่การประเมินผลก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย 30.76 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.04) ขณะที่การประเมินหลังเรียน มีค่าเฉลี่ย 42.80 (ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.11) แสดงว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย มีทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทย สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ย 4.57 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.17 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า แบบฝึกเสริมทักษะมีสีสันน่าสนใจให้นักเรียนเกิดอยากเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.95 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.21 อยู่ในระดับมาก รองลงมาแบบฝึกเสริมทักษะช่วยให้การเรียนเข้าใจง่ายและเรียนรู้ได้เร็วขึ้น มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.90 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.30 อยู่ในระดับมาก และนักเรียนพอใจที่คุณครูชมเชยและให้กำลังใจการเรียนตลอดเวลา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.40 ตามลำดับ
|
โพสต์โดย ky : [29 เม.ย. 2561 เวลา 11:32 น.] อ่าน [5260] ไอพี : 124.122.41.236
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 16,990 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,724 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,856 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,799 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,767 ครั้ง
| เปิดอ่าน 91,592 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,025 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,300 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,181 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,014 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,689 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,504 ครั้ง
| เปิดอ่าน 93,151 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,462 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,366 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 29,395 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,204 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,480 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,237 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,651 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|