|
|
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา
และพลศึกษา โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หน่วยการเรียนรู้
ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้รายงาน นางสารภี การญจนะ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านป่ากอ
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านป่ากอ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2
ปีที่ทำการศึกษา ปีการศึกษา 2559
รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หน่วยการเรียนรู้ ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หน่วยการเรียนรู้ ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หน่วยการเรียนรู้ ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หน่วยการเรียนรู้ ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สมมติฐานของการศึกษา บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนอยู่ในระดับมากที่สุด กลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียน ที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านป่ากอ จำนวน 18 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน แบบทดสอบระหว่างเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน คู่มือการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และ ค่า t-test
ผลการศึกษาสรุปได้ว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา หน่วยการเรียนรู้ ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.12/83.70 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน ค่าเฉลี่ยร้อยละ 47.04 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ค่าเฉลี่ยร้อยละ 83.70 ซึ่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน พบว่า ภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.61
|
โพสต์โดย AM : [27 เม.ย. 2561 เวลา 08:25 น.] อ่าน [5128] ไอพี : 1.4.249.59
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 12,976 ครั้ง
| เปิดอ่าน 46,199 ครั้ง
| เปิดอ่าน 37,578 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,850 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,895 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,160 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,351 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,790 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,152 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,872 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,319 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,472 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,259 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,667 ครั้ง
| เปิดอ่าน 65,839 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 74,981 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,303 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,691 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,187 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,531 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|