ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว "สะเต็มศึกษา" เรื่องปฏิกิริยาเคมี รายวิชาเคมีพื้

เรื่อง รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว “สะเต็มศึกษา” เรื่องปฏิกิริยาเคมี

รายวิชาเคมีพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้รายงาน นางสาวสุนทรี อ่อนสุวรรณ

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว “สะเต็มศึกษา” รายวิชาเคมีพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว

“สะเต็มศึกษา” เรื่องปฏิกิริยาเคมี รายวิชาเคมีพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการใช้

ชุดกิจกรรม 3) ประเมินทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมของนักเรียนหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว “สะเต็มศึกษา” เรื่องปฏิกิริยาเคมี รายวิชาเคมีพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว “สะเต็มศึกษา”เรื่องปฏิกิริยาเคมี รายวิชาเคมีพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 1 โรงเรียนบางบัวทอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1) ชุดกิจกรรม

การเรียนรู้ตามแนว “สะเต็มศึกษา” เรื่องปฏิกิริยาเคมี รายวิชาเคมีพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องปฏิกิริยาเคมี 3) แบบประเมินทักษะการเรียนรู้

และนวัตกรรมของนักเรียน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดย

ใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว “สะเต็มศึกษา” เรื่องปฏิกิริยาเคมี รายวิชาเคมีพื้นฐาน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) ค่า ( t-test Dependent ) และค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) ผลการศึกษาพบว่า

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว “สะเต็มศึกษา” เรื่องปฏิกิริยาเคมี รายวิชาเคมีพื้นฐาน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 85.81/83.98 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80

2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว “สะเต็มศึกษา”เรื่องปฏิกิริยาเคมี รายวิชาเคมีพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว “สะเต็มศึกษา” เรื่องปฏิกิริยาเคมี รายวิชาเคมีพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในภาพรวมมีค่าเฉลี่ย

อยู่ในระดับมาก (X-bar = 3.98, S = 0.42) และค่าความสัมพันธ์กันของผลคะแนนการประเมินจากผู้ประเมินทั้ง 2 มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เท่ากับ 0.94 ซึ่งมีความสัมพันธ์กันสูงมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนว

“สะเต็มศึกษา” เรื่องปฏิกิริยาเคมี รายวิชาเคมีพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนมีความพึงพอใจ

ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( X-bar= 4.24, S = 0.35)

โพสต์โดย ์Nim : [23 เม.ย. 2561 เวลา 20:15 น.]
อ่าน [5385] ไอพี : 49.49.238.34
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,520 ครั้ง
น้อมรำลึกถึง สมเด็จย่า เส้นทางแม่ฟ้าหลวงทรงสร้างคน
น้อมรำลึกถึง สมเด็จย่า เส้นทางแม่ฟ้าหลวงทรงสร้างคน

เปิดอ่าน 13,748 ครั้ง
พระคุณแม่  (ตอนที่ 1)
พระคุณแม่ (ตอนที่ 1)

เปิดอ่าน 20,229 ครั้ง
15 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ปาก และ ฟัน
15 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ปาก และ ฟัน

เปิดอ่าน 14,711 ครั้ง
ความพอเพียงของสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียเพื่อการศึกษา
ความพอเพียงของสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียเพื่อการศึกษา

เปิดอ่าน 21,017 ครั้ง
รู้ไว้ใช่เสียหาย "กัญชง" ต่างจาก "กัญชา" อย่างไร?
รู้ไว้ใช่เสียหาย "กัญชง" ต่างจาก "กัญชา" อย่างไร?

เปิดอ่าน 19,653 ครั้ง
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก
แช่น้ำอุ่นก่อนนอนทำให้หลับลึก

เปิดอ่าน 304,704 ครั้ง
มิตรแท้ ๔ มิตรเทียม ๔
มิตรแท้ ๔ มิตรเทียม ๔

เปิดอ่าน 9,053 ครั้ง
เทคนิคดูแลเด็กให้สนุกกับการเรียน
เทคนิคดูแลเด็กให้สนุกกับการเรียน

เปิดอ่าน 18,597 ครั้ง
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสารพัดประโยชน์
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสารพัดประโยชน์

เปิดอ่าน 23,962 ครั้ง
วิธีรับมือกับแก๊สน้ำตา และสารเคมี
วิธีรับมือกับแก๊สน้ำตา และสารเคมี

เปิดอ่าน 18,754 ครั้ง
กินส้มตำ ระวังเจออาหารเป็นพิษ
กินส้มตำ ระวังเจออาหารเป็นพิษ

เปิดอ่าน 13,811 ครั้ง
เรียนยังไงให้ "เก่ง" และต้องเก่งกว่าครูบาอาจารย์ คำแนะนำจากนักเรียนทุนชื่อ "ดร.ป๋วย"
เรียนยังไงให้ "เก่ง" และต้องเก่งกว่าครูบาอาจารย์ คำแนะนำจากนักเรียนทุนชื่อ "ดร.ป๋วย"

เปิดอ่าน 39,486 ครั้ง
ความรู้พื้นฐานที่นักถ่ายรูปทุกคนควรทราบ
ความรู้พื้นฐานที่นักถ่ายรูปทุกคนควรทราบ

เปิดอ่าน 196,224 ครั้ง
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม

เปิดอ่าน 39,738 ครั้ง
การแก้ระบบสมการ โดยใช้วิธีเมตริกผกผัน
การแก้ระบบสมการ โดยใช้วิธีเมตริกผกผัน

เปิดอ่าน 12,367 ครั้ง
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
เปิดอ่าน 20,630 ครั้ง
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร
เปิดอ่าน 23,125 ครั้ง
เลี้ยงปลามงคลเสริมโชคลาภ
เลี้ยงปลามงคลเสริมโชคลาภ
เปิดอ่าน 19,753 ครั้ง
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุงเทพฯ
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุงเทพฯ
เปิดอ่าน 14,736 ครั้ง
สูตรอาหารแก้ท้องผูก
สูตรอาหารแก้ท้องผูก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ