วิชา 2201 2105 การบัญชีกิจการพิเศษ
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 2 ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาขาวิชาการบัญชี จำนวน 3 หน่วยกิต เวลา 3 คาบ/สัปดาห์ จำนวนคาบรวม 54 คาบ
หน่วยที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกิจการพิเศษ
สาระสำคัญ
กิจการพิเศษ เป็นการศึกษาความรู้และการปฏิบัติงานบัญชีเกี่ยวกับหลักการและวิธีการบัญชี สำหรับกิจการประเภทสถานศึกษาเอกชน สถานพยาบาล มูลนิธิ สมาคม สโมสร เกษตรกร และผู้ประกอบอาชีพอิสระ รวมถึงการนำเสนองบการเงิน
สาระการเรียนรู้
1. ความหมายของธุรกิจบริการ
2. ประเภทของธุรกิจบริการ
3. คุณลักษณะที่สำคัญของธุรกิจบริการ
4. ความหมายขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
5. คุณลักษณะที่สำคัญขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
6. หลักบัญชีที่เกี่ยวกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
7. หลักการเบื้องต้นในการบันทึกบัญชีองค์กรไม่แสวงหากำไร
8. งบการเงินของกิจการที่ไม่แสวงหาผลกำไร
9. วงจรบัญชีสำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร
10. ศัพท์บัญชี
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. อธิบายความหมายของธุรกิจบริการได้
2. จำแนกประเภทของธุรกิจบริการได้
3. อธิบายคุณลักษณะที่สำคัญของธุรกิจบริการได้
4. อธิบายความหมายขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไรได้
5. อธิบายคุณลักษณะที่สำคัญขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไรได้
6. ระบุหลักบัญชีที่เกี่ยวกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรได้
7. อธิบายหลักการเบื้องต้นในการบันทึกบัญชีองค์กรไม่แสวงหากำไรได้
8. อธิบายรูปแบบงบการเงินของกิจการที่ไม่แสวงหาผลกำไรได้
9. เขียนวงจรบัญชีสำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไรได้
10. แปลศัพท์บัญชีได้
ความหมายของธุรกิจบริการ
ธุรกิจบริการ (Service business) หมายถึง การประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่อำนวยความสะดวก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการให้เกิดความพึงพอใจได้ ธุรกิจบริการได้มีบทบาทสำคัญต่อการดำรงชีวิตประจำวันของคนมาก และในปัจจุบันผู้รับบริการต้องการบริการที่ดี สะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย ทำให้มีการแข่งขันกันมากเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ผู้รับบริการ
ประเภทของธุรกิจบริการ
การจำแนกประเภทของธุรกิจบริการตามสิ่งที่เกี่ยวข้องหลัก แบ่งออกได้ 4 กลุ่ม ดังนี้
1. การจำแนกประเภทธุรกิจบริการที่ตัวบุคคลเป็นหลัก เป็นรูปแบบการบริการที่ลูกค้าต้องเข้าร่วมในกระบวนการให้บริการนั้น ๆ ได้แก่
1.1 การขนส่งผู้โดยสาร เช่น บริการรถประจำทาง รถไฟฟ้า รถไฟ สายการบิน เป็นต้น
1.2 การท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ภัตตาคาร บริษัทนำเที่ยว ผับ บาร์ เป็นต้น
1.3 การดูแลรักษาสุขภาพ เช่น บริการนวด บริการสปา สถานออกกำลังกาย สนามกีฬา เป็นต้น
1.4 การบริการเสริมความงาม เช่น บริการทำผม ตัดผม แต่งหน้า บริการเสริมสวยแบบครบวงจร เป็นต้น
1.5 การบริการที่พักอาศัย เช่น คอนโดมิเนี่ยม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ เป็นต้น
1.6 การรักษาพยาบาล เช่น โรงพยาบาล เนอร์สเซอรี่ สถานกายภาพบำบัด คลินิกทำฟัน เป็นต้น
2. การจำแนกประเภทธุรกิจที่สินค้าเป็นหลัก เป็นรูปแบบการบริการที่ผู้ซื้อบริการเป็นเจ้าของสินค้าที่นำไปขอรับบริการจากผู้ขายบริการนั้น ๆ เช่น
2.1 การขนส่งสินค้า เช่น บริการขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ รวมทั้งบริการเก็บรักษาสินค้า เป็นต้น
2.2 การซ่อมบำรุงสินค้า เช่น บริการซ่อมรถยนต์ ซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
2.3 การทำความสะอาด เช่น สำนักงาน อาคาร เป็นต้น
2.4 การซักรีดหรือซักแห้ง เช่น เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน เป็นต้น
2.5 การตกแต่งและดูแลรักษาสวนหย่อม
2.6 การจัดจำหน่ายสินค้าในธุรกิจค้าปลีก
3. การจำแนกประเภทธุรกิจบริการความคิดเป็นหลัก เป็นรูปแบบการบริการที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาตอบสนองต่อความคิดของบุคคล กานนำเสนอความคิด เช่น
3.1 การโฆษณา ประชาสัมพันธ์
3.2 การแสดงศิลปะและบันเทิง เช่น ภาพยนตร์ โชว์ประเภทต่าง ๆ การแสดงคอนเสิร์ต เป็นต้น
3.3 การให้คำปรึกษา เช่น บริการปรึกษาด้านกฎหมาย ด้านจัดระบบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
3.4 การศึกษา เช่น โรงเรียนสอนหนังสือ โรงเรียนสอนภาษา โรงเรียนกวดวิชา มหาวิทยาลัย เป็นต้น
4. การจำแนกประเภทธุรกิจบริการที่ทรัพย์สินเป็นหลัก ทรัพย์สินอาจจับต้องได้หรือไม่ได้ เช่น
4.1 การธนาคาร เช่น การรับฝากเงิน การให้สินเชื่อ การลงทุนในหลักทรัพย์ เป็นต้น
4.2 การรับทำบัญชี
4.3 การประกันภัย
4.4 การประมวลผลข้อมูล
ความหมายขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร หมายถึง องค์กรที่ประกอบการโดยไม่มุ่งหากำไร องค์กรที่ไม่แสวงหากำไรไม่ใช่องค์กรภาครัฐ เป็นองค์กรที่มีจุดประสงค์เฉพาะ มีสถานะถูกต้องตามกฎหมาย วัตถุประสงค์เน้นที่การสนับสนุนให้สาธารณะชนดีขึ้น สนับสนุนการจ้างงานและการค้นหาปัญหาที่กดดันสังคม มีสิทธิขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล สนับสนุนให้ได้รับการยกเว้นภาษี
คุณลักษณะที่สำคัญขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
ขอบเขตและลักษณะขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ประกอบด้วย
1. การจัดองค์กร (Organized) หมายถึง การจัดโครงสร้างองค์กรให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของกฎหมายโดยจดทะเบียนให้ถูกต้อง หรือยอมรับแบบเป็นทางการ เน้นที่คุณสมบัติการเป็นองค์กรถาวรและมีกฎระเบียบ มีการประชุมแบบเป็นทางการ มีสมาชิก และมีการตัดสินใจที่รับฟังความคิดเห็นและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ
2. ความเป็นองค์กรเอกชน (Private) หมายถึง องค์กรแยกภาครัฐ นอกจากอาจได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล
3. ไม่แจกจ่ายผลกำไร (Not profit distributing) หมายถึง ไม่มีจุดประสงค์ในการทำการค้าและไม่แจกจ่ายผลกำไรไปยังผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น หรือผู้จัดการ แต่จะมีส่วนเกินของรายได้ที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายโอนไปงวดต่อไป และนำมาใช้ตามวัตถุประสงค์ขององค์กรที่กำหนดไว้
4. ดำเนินการด้วยตัวเอง (Self governing) หมายถึง มีระบบการบริหารจัดการองค์กร มีอำนาจการบังคับบัญชาด้วยตนเอง และควบคุมองค์กรให้ไปในทิศทางที่กำหนด
5. อาสาสมัคร (Voluntary) หมายถึง สมาชิกหรือผู้ร่วมงานที่ไม่มีอำนาจสั่งการในเรื่องใด ๆ ในองค์กร
6. หลักบัญชีที่เกี่ยวกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
จุดประสงค์ทางบัญชีมีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ (Relevance) สามารถเข้าใจได้ (Understandability) สามารถเปรียบเทียบได้ (Comparability) โดยงบการเงินจะให้ข้อมูลเบื้องต้นเน้นไปที่หน่วยงานกิจการทั้งหมดให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ภายนอก การรายงานทางการเงินโดยปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะของสภาวิชาชีพบัญชีแห่งประเทศไทย และการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีของสหรัฐอเมริกา FASB Statement SFAS N0.116 Contributions เรื่องเงินบริจาค และ FASB Statement SFAS N0.117 Financial Statement Display เรื่องการนำเสนองบการเงินขององค์กรไม่แสวงหากำไร ส่วนการปฏิบัติทางบัญชีเรื่องอื่น ๆ ยังคงนำมาตรฐานบัญชีของไทยที่เกี่ยวข้องมาใช้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการจัดทำบัญชีธุรกิจเพื่อแสวงหาผลกำไรทั่วไป
7. หลักการเบื้องต้นในการบันทึกบัญชีองค์กรไม่แสวงหากำไร
หมวดบัญชี ขององค์กรไม่แสวงหากำไร ประกอบด้วย
1. สินทรัพย์ หมายถึง สิ่งของทั้งหมดที่มีมูลค่าที่องค์กรนั้นเป็นเจ้าของ เช่น เงินสด เงินลงทุน ยานพาหนะ อาคาร ที่ดิน เครื่องจักร อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น
2. หนี้สิน หมายถึง องค์กรนั้นไปกู้ยืมและมีภาระผูกพันที่ต้องจ่าย เช่น เงินกู้ยืม ตั๋วเงินจ่าย สัญญาเช่าซื้อ เป็นต้น
3. กองทุนสะสม หมายถึง ส่วนที่องค์กรได้รับโดยคำนวณจากการนำรายได้หักด้วยค่าใช้จ่ายของแต่ละปี นำมาสะสมไว้ในปีบัญชี
4. รายได้ หมายถึง รายได้จากการให้บริการและรายได้จากแหล่งอื่น เช่น ดอกเบี้ยรับจากการลงทุน การรับเงินบริจาคจากบุคคลธรรมดา บริษัทหรือองค์กรธุรกิจ และจากมูลนิธิการกุศลต่าง ๆ
5. ค่าใช้จ่าย หมายถึง ต้นทุนที่เกิดจากความสัมพันธ์กับการได้มาซึ่งรายได้ เช่น เงินเดือน ค่าเช่า ค่าวัสดุสิ้นเปลือง ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทางในการตรวจสอบ ค่าสวัสดิการและผลประโยชน์พนักงาน เป็นต้น
สมการบัญชี องค์กรไม่แสวงหากำไรซึ่งมีสมการสินทรัพย์เท่ากับหนี้สินบวกกองทุนสะสม
เกณฑ์คงค้าง (Accrual Basis) การใช้เกณฑ์คงค้างในการจัดทำงบการเงิน องค์กรที่ไม่แสวงหากำไรอาจเลือกทำการบันทึกบัญชีตามเกณฑ์คงค้าง ตอนสิ้นงวดจะมีรายการค้าบางรายการที่ยังไม่ได้จ่าย หรือมีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายในงวดต่อไป โดยภาระผูกพันแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว นอกจากนั้นยังมีรายการรายได้ค้างรับ ณ วันสิ้นงวดที่ไม่ได้บันทึกบัญชี
แหล่งที่มาของเอกสารในการบันทึกบัญชี (Source document) หมายถึง การจัดทำให้ได้มาซึ่งหลักฐานของแต่ละรายการค้า ณ วันที่รายการค้าเกิดขึ้น จะต้องมีเอกสารสำหรับรายการค้าแต่ละรายการ
งบการเงิน (Financial statement) ของกิจการที่ไม่แสวงหาผลกำไร แบ่งออกเป็น 3 งบ คือ
1. งบรายรับรายจ่าย (Statement of receipts and payments)
2. งบรายได้และค่าใช้จ่าย (Statement of income and expenditure)
3. งบแสดงฐานะการเงิน
4. งบแสดงการเปลี่ยนแปลงเงินกองทุน
แบบฝึกหัด
หน่วยที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกิจการพิเศษ
จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.1 จงอธิบายความหมายของธุรกิจบริการ พอสังเขป
1.2 ธุรกิจบริการแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
1.3 เขียนสรุปเกี่ยวกับคุณลักษณะที่สำคัญของธุรกิจบริการ
1.4 จงอธิบายอธิบายความหมายขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
1.5 จงอธิบายคุณลักษณะที่สำคัญขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
1.6 ระบุหลักบัญชีที่เกี่ยวกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
1.7 จงอธิบายหลักการเบื้องต้นในการบันทึกบัญชีองค์กรไม่แสวงหากำไร
1.8 จงเขียนวงจรบัญชีสำหรับมูลนิธิ
เอกสารอ้างอิง
ศศิวิมล มีอำพล. 2551. ทฤษฎีการบัญชี เล่มที่ 2. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : อินโฟไมนิ่ง.