รายงานผลการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะศิลป์หรรษาพัฒนาความสามารถ
ทางทัศนศิลป์ ชุด สนุกกับงานศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์
นางสาวกนกฉัตร โกมลมณี ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะศิลป์หรรษาพัฒนาความสามารถทางทัศนศิลป์ ชุด สนุกกับงานศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การจัดกิจกรรมก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะศิลป์หรรษาพัฒนาความสามารถทางทัศนศิลป์ ชุด สนุกกับงานศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะศิลป์หรรษาพัฒนาความสามารถทางทัศนศิลป์ ชุด สนุกกับงานศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 46 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ของโรงเรียนอนุบาลวัดพิชัยสงคราม จากการสุ่มแบบง่าย (Simple random sampling) ด้วยวิธีจับสลากจำนวนห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือ แบบฝึกทักษะศิลป์หรรษาพัฒนาความสามารถทางทัศนศิลป์ ชุด สนุกกับงานศิลป์ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 20 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ t - test
ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า
1. ผลการทดลองพบว่าแบบฝึกทักษะศิลป์หรรษาพัฒนาความสามารถทางทัศนศิลป์ ชุด สนุกกับงานศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ โดยนำไปทดลองกับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนน ทั้ง 5 เล่ม คิดเป็นร้อยละ 85.90 ซึ่งมีค่าเฉลี่ย เรียงตามลำดับเล่มที่ 1 5 คิดเป็นร้อยละ 86.10, 86.35, 85.60, 86.15 และ 85.30 และนักเรียนในกลุ่มทดลองมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้หลังทดลอง มีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 82.90 ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า แบบฝึกทักษะศิลป์หรรษาพัฒนาความสามารถทางทัศนศิลป์ ชุด สนุกกับงานศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 ได้เกณฑ์ประสิทธิภาพ 85.90/82.90
2. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การจัดกิจกรรมก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ ศิลป์หรรษาพัฒนาความสามารถ ทางทัศนศิลป์ ชุด สนุกกับงานศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จากการวัดผลก่อนเรียนและหลังเรียนด้วย t-test พบว่า t = 19.70 นัยสำคัญที่ระดับ .01 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งยอมรับสมติฐานว่าการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะศิลป์หรรษาพัฒนาความสามารถทางทัศนศิลป์ ชุด สนุกกับงานศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน
3. นักเรียนมีความพึงพอใจที่เรียนจากแบบฝึกทักษะศิลป์หรรษาพัฒนาความสามารถ
ทางทัศนศิลป์ ชุด สนุกกับงานศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.58 ด้านที่มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ ด้านการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.82 รองลงมา คือ ด้านเนื้อหา มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.59 ด้านภาษาและภาพประกอบ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.58 ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.46 ด้านการวัดผลประเมินผล มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.45 ตามลำดับ