ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องลาดับ และอนุกรมชั้นมัธยมศึกษ

ชื่อเรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องลาดับ และอนุกรมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และความพึงพอใจของนักเรียนต่อการสอนที่มีการจัดกลุ่ม นักเรียนและเรียงลาดับเนื้อหาสาระต่างกัน

ผู้วิจัย นายดารงศักดิ์ ปัญญาทิพย์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย

สานักงานเขตที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27

บทคัดย่อ

กระบวนการจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์จะประสบความสาเร็จได้นั้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบและเทคนิคการสอน ซึ่งครูจาเป็นจะต้องเลือกวิธีการสอนที่เหมาะสมกับความต้องการและความแตกต่างระหว่างบุคคลของนักเรียน ต้องสอนให้นักเรียนเก่ง สอนแล้วนักเรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลาดับและอนุกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และความพึงพอใจต่อการสอน ระหว่างนักเรียนที่ได้รับการสอนปกติ กับนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยการจัดกลุ่มและเรียงลาดับเนื้อหาสาระใหม่

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/16 และ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/17 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย อาเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด จานวน 61 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เพื่อแบ่งเป็นกลุ่มควบคุมจานวน 1 ห้องเรียน และกลุ่มทดลองจานวน 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล มี 3 ชนิด ได้แก่

1) แผนการสอนจานวน 18 แผน ทาการสอนแผนละ 1 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 40 ข้อ มีค่าอานาจจาแนก (B) ตั้งแต่ 0.24 ถึง 0.67 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 3) แบบวัดความพึงพอใจต่อการสอน เป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 อันดับ จานวน 20 ข้อมีค่าอานาจจาแนกรายข้อ (t) ที่มีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มีค่า t-test ตั้งแต่ 3.23 ถึง 6.48 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบสมมติฐาน ใช้ F-test แบบทางเดียว (One - way ANOVA)

ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1.นักเรียนที่เรียนแบบจัดเข้ากลุ่มและเรียนโดยจัดเรียงเนื้อหาสาระใหม่ มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลาดับและอนุกรมเท่ากับ 32.06 และนักเรียนที่เข้ากลุ่มปกติมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลาดับและอนุกรมเท่ากับ 28.11

2. นักเรียนที่เรียนแบบจัดเข้ากลุ่มและเรียนโดยจัดเรียงเนื้อหาสาระใหม่ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยเรื่องลาดับและอนุกรมสูงกว่านักเรียนที่เข้ากลุ่มปกติ อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. นักเรียนที่เรียนแบบจัดเข้ากลุ่มและเรียนโดยจัดเรียงเนื้อหาสาระใหม่ มีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจต่อการสอนเท่ากับ 4.24 และนักเรียนที่เข้ากลุ่มปกติมีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจต่อการสอนเท่ากับ 3.99 ซึ่งอยู่ในระดับมากเหมือนกัน แต่นักเรียนที่เรียนแบบจัดเข้ากลุ่มและเรียนโดยจัดเรียงเนื้อหาสาระใหม่มีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจสูงกว่านักเรียนที่เข้ากลุ่มปกติ

โดยสรุปแล้ว ครูผู้สอนต้องรู้จักวิเคราะห์ จัดลาดับเนื้อหาสาระให้มีความต่อเนื่องสมเหตุสมผล และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เป็นไปตามความต้องการของนักเรียน และช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ มีการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเพื่อน จะทาให้ครูคณิตศาสตร์สามารถพัฒนาการเรียนการสอนได้อีกวิธีหนึ่ง

โพสต์โดย ครูหนึ่งRW : [9 เม.ย. 2561 เวลา 14:38 น.]
อ่าน [3573] ไอพี : 49.231.5.130
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 34,719 ครั้ง
การเขียนชื่อจังหวัด เขต และอำเภอ เป็นภาษาอังกฤษ
การเขียนชื่อจังหวัด เขต และอำเภอ เป็นภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 12,177 ครั้ง
การค้ำประกันสัญญาอนุญาตให้ ขรก.ลาศึกษาต่อ ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ ฉบับใหม่
การค้ำประกันสัญญาอนุญาตให้ ขรก.ลาศึกษาต่อ ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ ฉบับใหม่

เปิดอ่าน 28,391 ครั้ง
เครื่องปั้นดินเผา (CERAMICS)
เครื่องปั้นดินเผา (CERAMICS)

เปิดอ่าน 14,433 ครั้ง
วิธีสังเกตยาที่เสื่อมคุณภาพ
วิธีสังเกตยาที่เสื่อมคุณภาพ

เปิดอ่าน 13,482 ครั้ง
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี

เปิดอ่าน 26,978 ครั้ง
พระนามพระเป็นเจ้าทางศาสนาพราหมณ์
พระนามพระเป็นเจ้าทางศาสนาพราหมณ์

เปิดอ่าน 21,615 ครั้ง
การศึกษาความสัมพันธ์ของประสบการณ์การทำงานฯ ต่อวัฒนธรรมการทำงานของครู
การศึกษาความสัมพันธ์ของประสบการณ์การทำงานฯ ต่อวัฒนธรรมการทำงานของครู

เปิดอ่าน 19,833 ครั้ง
"กระเจี๊ยบแดง" ยาดีลดความดัน
"กระเจี๊ยบแดง" ยาดีลดความดัน

เปิดอ่าน 44,159 ครั้ง
วิกฤต... "บัณฑิตแห่ตกงาน" อีกหนึ่งความล้มเหลว... อุดมศึกษาไทย
วิกฤต... "บัณฑิตแห่ตกงาน" อีกหนึ่งความล้มเหลว... อุดมศึกษาไทย

เปิดอ่าน 10,894 ครั้ง
อาหารขยะ...ทานได้แต่ต้องฉลาดเลือก
อาหารขยะ...ทานได้แต่ต้องฉลาดเลือก

เปิดอ่าน 20,909 ครั้ง
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 13,097 ครั้ง
เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน
เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน

เปิดอ่าน 17,305 ครั้ง
ข่าวดี ! สกัด"ผักติ้ว-สนสามใบ" ยาสู้มะเร็ง ทีมวิจัยไทยเฮทำสำเร็จ
ข่าวดี ! สกัด"ผักติ้ว-สนสามใบ" ยาสู้มะเร็ง ทีมวิจัยไทยเฮทำสำเร็จ

เปิดอ่าน 18,474 ครั้ง
การศึกษาไทย กระบวนทัศน์ที่หลงทาง
การศึกษาไทย กระบวนทัศน์ที่หลงทาง

เปิดอ่าน 46,548 ครั้ง
"แคนา แคทุ่ง แคอ่าว" มีดีอย่างไร ทำไมจึงนิยมปลูกในบ้านหรือปั๊มน้ำมันกันจังเลย
"แคนา แคทุ่ง แคอ่าว" มีดีอย่างไร ทำไมจึงนิยมปลูกในบ้านหรือปั๊มน้ำมันกันจังเลย

เปิดอ่าน 2,533 ครั้ง
รับทำ seo ให้กับทุกเว็บไซต์ติดอันดับ Google 1 วันรู้ผล
รับทำ seo ให้กับทุกเว็บไซต์ติดอันดับ Google 1 วันรู้ผล
เปิดอ่าน 45,854 ครั้ง
ปรากฏการณ์เรือนกระจก
ปรากฏการณ์เรือนกระจก
เปิดอ่าน 13,338 ครั้ง
ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ
ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ
เปิดอ่าน 26,718 ครั้ง
วิธีการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
วิธีการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
เปิดอ่าน 12,525 ครั้ง
เตือนอย่าทดลองแมงมุมหม้ายดำ รักษานกเขาไม่ขัน
เตือนอย่าทดลองแมงมุมหม้ายดำ รักษานกเขาไม่ขัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ