การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านวังแคน ที่ได้รับกลวิธีการฝึกตามแนวการสอนแบบฟัง-พูด (Audio-Lingual Teaching Strategies) โดยยึดขั้นตอนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร โดยให้จำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 70 ขึ้นไป 2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านวังแคน ที่ได้รับกลวิธีการฝึกตามแนวการสอนแบบฟัง-พูด (Audio-lingual Teaching Strategies) โดยยึดขั้นตอนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร
กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านวังแคน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 ที่กำลังศึกษาใน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 11 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งออกได้ 4 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้กลวิธีการฝึกตามแนวการสอนแบบฟัง-พูด (Audio-Lingual Teaching Strategies) จำนวน 9 แผน การจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ละ 2 ชั่วโมง รวมเวลา 18 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ทดสอบวัดความก้าวหน้าด้านทักษะการฟังและการพูด ได้แก่ แบบทดสอบย่อยท้ายวงจร ประกอบด้วย แบบทดสอบวัดความก้าวหน้าด้านทักษะการฟังและแบบทดสอบวัดความก้าวหน้าด้านทักษะการพูด 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย แบบวัดทักษะ การฟัง และแบบวัดทักษะการพูด 4) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกพฤติกรรมการสอนของครู แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรียนและแบบสัมภาษณ์
รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) มีวงจรปฏิบัติ 3 วงจร วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสรุปการบรรยายเป็นรูปความเรียง
ผลการวิจัย พบว่า
1. ทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านวังแคน ที่ได้รับกลวิธีการฝึกตามแนวการสอนแบบฟัง-พูด (Audio-Lingual Teaching Strategies) โดยยึดขั้นตอนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษในด้านทักษะการฟังและการพูดสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดให้นักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 70 ขึ้นไป กล่าวคือ นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป มีจำนวน 8 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 11 คน คิดเป็นร้อยละ 72.73
2. นักเรียนที่ได้รับกลวิธีการฝึกตามแนวการสอนแบบฟัง-พูด (Audio-lingual Teaching Strategies) โดยยึดขั้นตอนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร มีพฤติกรรมการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยภาพรวม ระดับคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก ( = 3.52) และรายด้าน ดังนี้ ด้านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน ระดับคุณภาพ ดีมาก ( = 3.57) ด้านความตั้งใจ ระดับคุณภาพดีมาก ( = 3.52) ด้านความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ระดับคุณภาพดี ( = 3.48) และ ด้านความกระตือรือร้น ระดับคุณภาพดี ( = 3.37)