ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง พุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษา นางสาวอุธร ผิวทวี
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
รายงานครั้งนี้ เป็นการรายงานที่มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป
เรื่อง พุทธศาสนา กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป
และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป
เรื่อง พุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านหนองเรือ อำเภอชุมพลบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 17 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้เวลาทดลอง 16 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาที่ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน) เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง พุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งมีค่าความยากง่าย 0.38 ถึง 0.75 อำนาจจำแนก 0.25 ถึง 0.88 และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.84 แบบประเมินบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง พุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปการ์ตูน เรื่อง พุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าอำนาจจำแนก 0.66 ถึง 0.89 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานดัชนีประสิทธิผล และ t - test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1) บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง พุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 83.66/83.68 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2) นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง พุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.6925 แสดงว่านักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 69.25
3) นักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นจาก
ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง พุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69