ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึก

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14 ปีการศึกษา 2560

ผู้รายงาน นางสาวจันทิมา อิ๋วสกุล รองผู้อำนวยการโรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2560

-----------------------------------------------------------------------------------------------

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14 ปีการศึกษา 2560 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินโครงการด้านปัจจัยพื้นฐานด้านสภาวะแวดล้อม ด้านกระบวนการปฏิบัติของโครงการและด้านผลผลิตของโครงการ โดยประยุกต์ใช้แบบจำลองการประเมินซีโป (CPO’s Evaluation Model) ตามกรอบแนวคิดของเยาวดี รางชัยกุล วิบูลย์ศรี มาเป็นรูปแบบการประเมินโครงการ โดยมีวิธีการประเมิน คือ การประเมินโดยใช้แบบสอบถามที่ผู้ประเมินได้สร้างขึ้น

ประชากรที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดการศึกษา โรงเรียน ท้ายเหมืองวิทยา ปีการศึกษา 2560 ประกอบด้วย นักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง จำนวน 1,974 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 333 คน โดยใช้สูตรของ ยามาเน (Yamane) ในการคำนวณ ที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ วิธีการสุ่ม ใช้วิธีสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (stratified random sampling) โดยมีตัวแปรแบบแบ่งชั้น คือ ตำแหน่งและหน้าที่ แล้วแต่ละชั้นใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย (simple random sampling) โดยตารางเลขสุ่ม (random number tables) จนได้กลุ่มตัวอย่างครบตามต้องการ

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ และมีข้อคำถามปลายเปิด จำนวน 3 ฉบับ ทุกฉบับผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ โดยมีค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.80-0.85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14 ปีการศึกษา 2560 เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน ด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการ ตามความคิดเห็นของครู ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำแนกเป็นรายด้าน โดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.66,S.D. = 0.39) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ผลการประเมินทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ วัตถุประสงค์ของโครงการ ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.74, S.D. = 0.40) ได้คะแนนเฉลี่ย 4 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมา คือ ความพร้อมและทรัพยากร ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ได้คะแนนเฉลี่ย 4 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และด้านมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความต้องการจำเป็นของโครงการ ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ได้คะแนนเฉลี่ย 4 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

2. ผลการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14 ปีการศึกษา 2560 เกี่ยวกับกระบวนการปฏิบัติระหว่างดำเนินโครงการ ตามความคิดเห็นของครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้ปกครอง จำแนกตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนักและเกณฑ์ การประเมินโดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.22, S.D. = 0.56) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 45 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณา เป็นรายด้าน พบว่า ด้านกิจกรรมของโครงการ ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.24, S.D. = 0.48) ได้คะแนนเฉลี่ย 40 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และด้านช่วงเวลาที่ดำเนินการ ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.19, S.D. = 0.65) ได้คะแนนเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

3. ผลการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14 ปีการศึกษา 2560 เกี่ยวกับผลผลิต ของโครงการ ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง จำแนกตามประเด็นตัวชี้วัดค่าน้ำหนักและเกณฑ์การประเมิน โดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.17, S.D. = 0.53) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 35 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.22, S.D. = 0.17) ได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และด้านความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชนผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.19, S.D. = 0.50) ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

สรุปผลการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14 ปีการศึกษา 2560 ทั้ง 3 ด้าน 18 ตัวชี้วัด คะแนนเต็ม 100 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่า สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดทั้ง 18 ตัวชี้วัด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านปัจจัยพื้นฐานด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการ ด้านกระบวนการปฏิบัติระหว่างดำเนินโครงการ และด้านผลผลิตของโครงการ

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. ด้านปัจจัยพื้นฐานด้านสภาวะแวดล้อมของโครงการ ในการจัดทำโครงการโรงเรียนควรชี้แจงให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจในวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของโครงการให้ชัดเจน สร้างความร่วมมือ ประสานสัมพันธ์และส่งเสริมให้ครู ผู้ปกครอง ชุมชน ร่วมกันในการเอาใจใส่ดูแล ส่งเสริม ช่วยเหลือ ป้องกันและแก้ไขปัญหาของนักเรียนในด้านต่างๆ เช่น ปัญหาด้านการเรียน ปัญหายาเสพติดทั้งในโรงเรียน ที่บ้าน และในชุมชน

2. ด้านกระบวนการปฏิบัติระหว่างดำเนินโครงการ โรงเรียนควรจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานที่เป็นขั้นตอน ถูกต้อง ชัดเจนแก่ ผู้ปฏิบัติงาน ผู้บริหารสถานศึกษาส่งเสริมและกำกับ ติดตาม ให้ครูที่ปรึกษามีการรายงานผลการศึกษานักเรียนเป็นรายบุคคล ผลการคัดกรองนักเรียน และจัดทำเป็นสารสนเทศเพื่อนำไปใช้ในการส่งเสริม พัฒนา ป้องกัน ช่วยเหลือและแก้ไขนักเรียน โรงเรียนควรจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อเป็นการส่งเสริม พัฒนา ป้องกัน ช่วยเหลือและแก้ไขนักเรียน โรงเรียนควรสร้างเครือข่ายภายนอก เพื่อการประสานติดต่อ ขอความร่วมมือเพื่อการบำบัด ดูแลนักเรียนกลุ่มที่มีปัญหากรณีมีการส่งต่อหน่วยงานภายนอก ผู้บริหารสถานศึกษาควรสร้างขวัญกำลังใจให้กับบุคลากร ผู้ซึ่งปฏิบัติงานในสถานศึกษาทุกคน เช่น การยกย่อง ชมเชย ประกาศเกียรติคุณ การให้วุฒิบัตร

3. ด้านผลผลิตของโครงการ โรงเรียนควรมีการจัดกิจกรรม การประชุม อบรม สัมมนาเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กิจกรรมถอดประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้ปกครองและชุมชนมีความรู้ ความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ตลอดจนโรงเรียนควรมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานให้แพร่หลาย เพื่อนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน

ข้อเสนอแนะแนวทางในการประเมิน/วิจัยครั้งต่อไป

1. ควรประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยประยุกต์ทฤษฎีการประเมินอื่นๆ มาใช้ในการประเมินโครงการ เช่น การประเมินโดยยึดวัตถุประสงค์ เป็นต้น

2. ควรมีการศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน อย่างละเอียดในแต่ละกิจกรรม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ส่งผลต่อความสำเร็จของโครงการ

3. ควรศึกษาแนวทางในการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่สอดคล้องกับ ความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน

4. ควรมีการศึกษาวิจัยถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

โพสต์โดย เป๋ง : [31 มี.ค. 2561 เวลา 22:37 น.]
อ่าน [5617] ไอพี : 118.173.122.24
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 205,727 ครั้ง
ธรรมคุณ 6
ธรรมคุณ 6

เปิดอ่าน 21,065 ครั้ง
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"

เปิดอ่าน 15,780 ครั้ง
โซเชียลเน็ตเวิร์กทำครอบครัวร้าว
โซเชียลเน็ตเวิร์กทำครอบครัวร้าว

เปิดอ่าน 82,975 ครั้ง
หน้ามน-หน้ามล
หน้ามน-หน้ามล

เปิดอ่าน 16,410 ครั้ง
อีกมุมของ "น้ำมันปลา"
อีกมุมของ "น้ำมันปลา"

เปิดอ่าน 16,410 ครั้ง
เกร็ดน่ารู้"แพนด้ายักษ์"
เกร็ดน่ารู้"แพนด้ายักษ์"

เปิดอ่าน 13,794 ครั้ง
เทคนิคการคิดเลข 3 ตัว ที่ยังไงก็แล้วแต่ ผลลัพธ์จะได้ 1089 เสมอ
เทคนิคการคิดเลข 3 ตัว ที่ยังไงก็แล้วแต่ ผลลัพธ์จะได้ 1089 เสมอ

เปิดอ่าน 15,201 ครั้ง
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม

เปิดอ่าน 8,390 ครั้ง
การประยุกต์สถิติในชีวิตประจำวัน
การประยุกต์สถิติในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 6,377 ครั้ง
การปลูก กระทกรกฝรั่ง
การปลูก กระทกรกฝรั่ง

เปิดอ่าน 35,387 ครั้ง
วิวัฒนาการความคิดทางการศึกษา
วิวัฒนาการความคิดทางการศึกษา

เปิดอ่าน 12,703 ครั้ง
เป็นอันธพาลเป็นโรคจิต เหตุเพราะขาดฮอร์โมนคุมการประพฤติ
เป็นอันธพาลเป็นโรคจิต เหตุเพราะขาดฮอร์โมนคุมการประพฤติ

เปิดอ่าน 22,049 ครั้ง
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน

เปิดอ่าน 10,832 ครั้ง
แนะนำหนังสือน่าอ่าน
แนะนำหนังสือน่าอ่าน

เปิดอ่าน 21,890 ครั้ง
จิตรกรรม
จิตรกรรม

เปิดอ่าน 15,957 ครั้ง
วิธีซ่อนรอยคล้ำใต้ดวงตา
วิธีซ่อนรอยคล้ำใต้ดวงตา
เปิดอ่าน 19,048 ครั้ง
5 สุดยอดผักผลไม้ กินแล้วไม่แก่!
5 สุดยอดผักผลไม้ กินแล้วไม่แก่!
เปิดอ่าน 57,227 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 9 การเริ่มเล่นและการเริ่มเล่นใหม่
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 9 การเริ่มเล่นและการเริ่มเล่นใหม่
เปิดอ่าน 20,407 ครั้ง
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
เปิดอ่าน 44,745 ครั้ง
เจาะลึกความสำเร็จการบริหารโรงเรียนตามแนวทาง SLC ของร.ร.พุทธจักรวิทยา  สร้างฐานการเรียนรู้ที่เข้มแข็งให้นักเรียน ดันคะแนนเฉลี่ยโอเน็ตปี’62 พุ่ง
เจาะลึกความสำเร็จการบริหารโรงเรียนตามแนวทาง SLC ของร.ร.พุทธจักรวิทยา สร้างฐานการเรียนรู้ที่เข้มแข็งให้นักเรียน ดันคะแนนเฉลี่ยโอเน็ตปี’62 พุ่ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ