เรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD
เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสาวนัฐิญา ธนะคำดี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
หน่วยงาน โรงเรียนราชวินิตประถมบางแค เขตบางแค จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ปีที่ทำการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนา ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนราชวินิตประถมบางแค ปีการศึกษา 2560 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 34 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เฉพาะนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ค้นคว้า ประกอบด้วย 5 ชนิด 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 แผน 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้จำนวน 1 ชุด 12 คำถาม 5) แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก รวมทั้ง 7 กิจกรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 14.48 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ที่ 0.08 ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบคุณภาพด้านความสอดคล้องจากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่านคำนวณค่า IOC ได้ 0.80 ขึ้นไปทุกรายการ ผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลตามแผนการวิจัยด้วยตนเองระหว่างเดือน พฤษภาคม 2560 ถึง กันยายน 2560 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และการทดลองค่าt (t-test) ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพได้นำข้อค้นพบมาสรุปในเชิงพรรณนาวิเคราะห์ สรุปดังนี้
ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ซึ่งชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD
มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 81.18/84.12
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการเรียนการสอนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนได้รับการเรียนการสอน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3อย่างมีนัยสำคัญที่ .05
3. นักเรียนมีพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( x- = 4.55)