เรื่องรายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลยีอวกาศ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้
บูรณาการตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ปรากฏการณ์
ของโลกและเทคโนโลยีอวกาศ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ก่อนเรียน
และหลังเรียน และความพึงพอใจต่อการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านห้วยปราบ อำเภอปลวกแดง
จังหวัดระยอง ปีการศึกษา2559 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 34 คน ซึ่งได้มาจากวิธีการเลือก
แบบเจาะจง (Purposive sampling) เพื่อทดลองใช้ชุดกิจกรรมสะเต็มศึกษา โดยใช้แบบแผนงานวิจัยเชิงทดลอง 1 กลุ่มที่มีการวัดผลก่อนและหลังการทดลอง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้
ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลยีอวกาศ จำนวน 6 ชุด
แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และแบบวัดความพึงพอใจ แล้ววิเคราะห์ข้อมูล
โดยใช้การวิเคราะห์ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติทดสอบ t test
แบบ Dependent sample
ผลการศึกษาครั้งนี้พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลยีอวกาศ มีประสิทธิภาพ 80.78/81.08 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์หลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลยีอวกาศ สูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.นักเรียนมีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการตามแนวคิดสะเต็มศึกษา
(STEM Education) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลยีอวกาศ
อยู่ในระดับพึงพอใจมาก