ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรี

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นางอรทัย แก่นจันทร์

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

สังกัด โรงเรียนเทศบาล 2“วิภัชศึกษา” สังกัดเทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

ปีที่วิจัย 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายของการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการของการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อศึกษาผลการใช้พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3.1) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3.2) การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 2“วิภัชศึกษา” สังกัดเทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 6 ห้องเรียน มีนักเรียนจำนวน 183 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 /1 มีนักเรียนจำนวน 30 คน โรงเรียนเทศบาล 2“วิภัชศึกษา” เทศบาลเมืองสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ได้มาจากการสุ่มอย่างง่ายโดยวิธีการจับฉลากห้อง (Sample Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1) แบบ สอบถามการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ 30 ข้อ ซึ่งมี ตั้งแต่ 0.43-0.80 และค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.20-0.80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.7201 และ4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 15 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.8079 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าทีแบบ (t - test dependent ) ใช้วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

สรุปผลการวิจัย

1. การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีเห็นว่าสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ คือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ร้อยละ 76.79

2. การสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้ชุดกิจกรรมจำนวน 4 ชุด มีคุณภาพและความเหมาะสมอยู่ในระดับดีมากและมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 1 ชุด คือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การแยกสารผสม มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.38/83.23 และมีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 3 ชุด ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้เรื่องสาร มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.68/82.26 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงของสาร มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.42/80.65 และชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.14/81.61 และชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวม มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.69/80.97

3. การศึกษาผลของการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้น

3.1 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนกับ หลังเรียนจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และคะแนนทดสอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกชุดกิจกรรมการเรียนรู้

3.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัว วิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.45 , S.D.= 0.60) และอยู่ในระดับมากที่สุด 1 ด้าน คือ ด้านปัจจัยนำเข้า ( = 4.51 , S.D.= 0.57) และระดับมาก 2 ด้าน คือ ด้านกระบวนการ ( = 4.47 , S.D.= 0.61) และด้านผลผลิต ( = 4.35 , S.D.= 0.62)

โพสต์โดย นางอรทัย แก่นจันทร์ : [23 มี.ค. 2561 เวลา 10:02 น.]
อ่าน [5115] ไอพี : 118.172.192.186
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,500 ครั้ง
ข้อมูลควรรู้ เกี่ยวกับ "เครดิตบูโร" ว่าเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
ข้อมูลควรรู้ เกี่ยวกับ "เครดิตบูโร" ว่าเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?

เปิดอ่าน 15,379 ครั้ง
12 วิธีแก้เซ็ง
12 วิธีแก้เซ็ง

เปิดอ่าน 42,715 ครั้ง
ความสำคัญและความจำเป็นของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
ความสำคัญและความจำเป็นของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน

เปิดอ่าน 25,940 ครั้ง
เผยเคล็ดลับ อ่านหนังสือแล้วทำอย่างไร ให้จำได้ดี
เผยเคล็ดลับ อ่านหนังสือแล้วทำอย่างไร ให้จำได้ดี

เปิดอ่าน 107,994 ครั้ง
รวมระเบียบต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ
รวมระเบียบต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 24,568 ครั้ง
เคล็ดลับๆก่อนอาบน้ำ
เคล็ดลับๆก่อนอาบน้ำ

เปิดอ่าน 24,315 ครั้ง
คลิปสาธิตวิธีแต่งหน้า แบบมุตตา-มุนินทร์ ในแรงเงา 2012
คลิปสาธิตวิธีแต่งหน้า แบบมุตตา-มุนินทร์ ในแรงเงา 2012

เปิดอ่าน 13,413 ครั้ง
"เสาวรส"
"เสาวรส"

เปิดอ่าน 17,670 ครั้ง
ประวัติจังหวัดมุกดาหาร
ประวัติจังหวัดมุกดาหาร

เปิดอ่าน 29,967 ครั้ง
Nanmeebooks Reading Club ปีที่ 9
Nanmeebooks Reading Club ปีที่ 9

เปิดอ่าน 58,547 ครั้ง
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น

เปิดอ่าน 9,191 ครั้ง
"สู่แสงสว่าง" หัวใจส่องเลนส์
"สู่แสงสว่าง" หัวใจส่องเลนส์

เปิดอ่าน 75,877 ครั้ง
งดข้าวเช้า…ตายเร็ว
งดข้าวเช้า…ตายเร็ว

เปิดอ่าน 19,050 ครั้ง
กินอาหารต้านแก่แบบไทยๆ
กินอาหารต้านแก่แบบไทยๆ

เปิดอ่าน 12,590 ครั้ง
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 23,557 ครั้ง
ชมคลิป สำนักงาน ก.พ. ชี้แจงปรับเงินเดือนข้าราชการ 4% เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2558
ชมคลิป สำนักงาน ก.พ. ชี้แจงปรับเงินเดือนข้าราชการ 4% เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2558
เปิดอ่าน 12,810 ครั้ง
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)
เปิดอ่าน 16,107 ครั้ง
เสมาการ์ตูน
เสมาการ์ตูน
เปิดอ่าน 49,416 ครั้ง
ตัวอย่างใบงานจากการ์ตูนความรู้
ตัวอย่างใบงานจากการ์ตูนความรู้
เปิดอ่าน 35,199 ครั้ง
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ