ผู้ประเมิน นายโชคดี อิ้ววังโส
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การประเมินในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนมัธยมเทศบาลวัดท่าแพ เทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินในครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหาร ครู บุคลากร และนักเรียน โรงเรียนมัธยมเทศบาลวัดท่าแพ จังหวัดนครศรีธรรมราช ปีการศึกษา 2559 โดยผู้บริหาร ครู และบุคลากร ใช้กลุ่มประชากร ส่วนนักเรียน ใช้เกณฑ์การกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของ เครจซี่ และมอร์แกน ได้กลุ่มตัวอย่าง 322 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) และ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบประเมิน มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมินพบว่า
การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนมัธยมเทศบาลวัดท่าแพ เทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งนี้ โดยใช้กรอบการประเมิน CIPP Model ได้ผลการวิจัย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย คือ ด้านกระบวนการ รองลงมาคือ ด้านผลผลิต ด้านบริบท และด้านปัจจัย ตามลำดับ ผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนมัธยมเทศบาลวัดท่าแพ เทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาพรวมและรายด้าน เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า
1. ด้านบริบท โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย คือ วัตถุประสงค์ของโครงการ รองลงมา คือ ความต้องการจำเป็นของโครงการ และความเป็นไปได้ของโครงการ ตามลำดับ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ในประเด็นวัตถุประสงค์ของโครงการ คือ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ประเด็นความต้องการจำเป็นของโครงการ คือ นักเรียนมีพฤติกรรมเลียนแบบสิ่งที่ไม่ดี และข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ประเด็นความเป็นไปได้ของโครงการ คือ โรงเรียนกำกับและติดตามโครงการได้ แต่ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ นักเรียนมีผลการเรียนต่ำ ครูให้ความร่วมมือในการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และสอดคล้องกับสภาพปัญหาของชุมชนและท้องถิ่น
2. ด้านปัจจัยนำเข้า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย คือ ความพร้อมของบุคคลที่เกี่ยวข้อง รองลงมา คือ ความพอเพียงด้านทรัพยากรต่าง ๆ ตามลำดับโดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ในประเด็นความพร้อมของบุคคลที่เกี่ยวข้อง คือ ครูเพียงพอในการจัดการดำเนินงานโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ในประเด็นความพอเพียงด้านทรัพยากรต่าง ๆ คือ มีการจัดระเบียบสภาวะแวดล้อมในโรงเรียนให้มีความปลอดภัยและเอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียน แต่ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ข้อมูลเอกสารและเครื่องมือในการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีเพียงพอ
3. ด้านกระบวนการ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย คือ ช่วงเวลาดำเนินงานตามโครงการ รองลงมา คือ กิจกรรมการดำเนินงานตามโครงการ ตามลำดับ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ในประเด็นกิจกรรมการดำเนินงานตามโครงการ คือ ครูที่ปรึกษาให้เวลากับนักเรียนเพื่อปรึกษาปัญหาต่าง ๆ และประเด็นช่วงเวลาดำเนินงานตามโครงการ คือ รายงานผลการดำเนินงานโครงการตามระยะเวลาที่กำหนด แต่ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมนักเรียน จากการจัดกิจกรรมโฮมรูม
4. ด้านผลผลิต โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน คือ นักเรียนมีมารยาทที่ดีงาม และข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการนักเรียน คือ นักเรียนมีสุขภาพกายที่ดี แต่ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน คือ นักเรียนไม่เสพสิ่งเสพติด รวมทั้งไม่แสวงหาผลประโยชน์จากสิ่งเสพติด และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตามความคิดเห็นของกรรมการนักเรียน คือ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามหลักสูตรทุกรายวิชา