การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการของผู้เรียน รายวิชา
ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่ส่งเสริมการบันทึกใน
หน่วยความจา (CESSL Model) เรื่อง Family กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอนตามแนว
ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ที่ส่งเสริมการบันทึกในหน่วยความจา (CESSL Model) เรื่อง Family
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
4) เพื่อขยายผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ที่ส่งเสริมการบันทึก
ในหน่วยความจา (CESSL Model) เรื่อง Family กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4/3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัดเทศบาลนคร
นครศรีธรรมราช จานวน 38 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่ายด้วยการจับฉลาก (Simple Random
Sampling) ทั้งชั้นเรียน โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. แบบวิเคราะห์
เอกสาร จานวน 2 ฉบับ 2. รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ 2.1 แบบ
สัมภาษณ์การบันทึกในหน่วยความจา 2.2 แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.3 แบบสอบถามความ
คิดเห็นของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ 1. วิเคราะห์องค์ประกอบและกระบวนการเรียน
การสอนตามแนวคิดวิธีการเชิงระบบและสรุปตีความ 2. วิเคราะห์ผลด้านความสามารถในด้านคิด
วิเคราะห์ของนักเรียน โดยใช้ค่าเฉลี่ย ( X- ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ t-test dependent
และวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. การศึกษาสภาพบริบทของโรงเรียน พบว่าสภาพปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน
ผู้เรียนยังไม่สามารถจาคาศัพท์ภาษาอังกฤษได้ และส่งผลให้ไม่สามารถนาไป แต่งประโยคได้
นอกจากนี้ยังพบว่าครูผู้สอนยังไม่ได้ส่งเสริมการสร้างความรู้และการบันทึกในหน่วยความจาให้กับ
นักเรียน ส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน หรือยังไม่ตรงตามหลักการ เพราะเข้าใจว่า
การท่องจาจะสามารถทาให้ผู้เรียนสามารถจาคาศัพท์ได้ในความจาระยะยาว
ข
2. รูปแบบการเรียนการสอนนี้มีชื่อเรียกว่า CESSL Model ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นการกระตุ้นให้เกิดความสงสัยในปัญญา (Cognitive conflict stage : C) 2) ขั้นขยายโครงสร้างทางปัญญา (Expand the cognitive structure stage : E) 3) ขั้นส่งเสริมการใส่ใจในความจาระยะประสาทสัมผัส (Enhance attention in sensory register : S) 4) ขั้นส่งเสริมการฝึกปฏิบัติและการจัดกลุ่มในความจาระยะสั้น (Enhance rehearsal and chunking in short-term memory : S) และ 5) ขั้นการส่งเสริมการขยายความรู้และ การจัดหมวดหมู่ (Enhance elaborate and organization in long-term memory : L) โดยมีค่าประสิทธิภาพ (E1 /E2) ของรูปแบบการเรียนการสอนเท่ากับ 88.07/86.45 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กาหนดไว้ 3) ประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่ส่งเสริมการบันทึกในหน่วยความจา (CESSL Model) เรื่อง Family กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า 3.1 การบันทึกในหน่วยความจาของผู้เรียน มี 3 ระยะได้แก่ 1.การบันทึกในความจาระยะประสาทสัมผัส โดยผู้เรียนจะต้องใส่ใจ 2. การบันทึกในความจาระยะสั้น ผู้เรียนจะต้องจัดกลุ่มและการทาแบบฝึกหัดหรือการท่องสารสนเทศซ้าๆ และ 3. การบันทึกในความจาระยะยาว ผู้เรียนจะต้องขยายความรู้และจัดหมวดหมู่สารสนเทศ 3.2 ผลการทดสอบหลังเรียนของนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 34.55 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนสอบของนักเรียนหลังเรียน พบว่า คะแนนสอบของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.3 ความคิดเห็นของนักเรียนกลุ่มขยายผลที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอน ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ที่ส่งเสริมการบันทึกในหน่วยความจา (CESSL Model) เรื่อง Family กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า หลังจากที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ที่ส่งเสริมการบันทึก ในหน่วยความจา ส่งผลให้ช่วยจาคาศัพท์ได้ดีขึ้นและสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้เป็นอย่างดี 4) การขยายผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่ส่งเสริมการบันทึกในหน่วยความจา (CESSL Model) เรื่อง Family กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่าหลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอน นักเรียนกลุ่มขยายผลมีความสามรถในการบันทึกในหน่วยความจา และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05