ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการส่งเสริมการอ่าน เพื่อพัฒนาคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียน
ของนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งเชือก สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลภูห่าน
อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น
ชื่อผู้จัดทำ นายอุดม แว่นแก้ว
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการส่งเสริมการอ่าน เพื่อพัฒนาคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งเชือก สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลภูห่าน อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น โดยใชู้รปแบบการประเมินแบบซิป (CIPP Model) มีวัตถุประสงค์เพื่อ1)ประเมินด้านสภาพแวดล้อม(Context Evaluation) เกี่ยวกับนโยบายและวัตถุประสงค์ของโครงการ 2)ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า(Input Evaluation) เกี่ยวกับการจัดบุคลากรทรัพยากรและปัจจัยสนับสนุนอื่น ๆ ในการดำเนินงานตามโครงการ 3) ประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) เกี่ยวกับการดำเนินงานตามโครงการเเละ 4.ประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) เกี่ยวกับผลผลิตของโครงการ
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมินโครงการครั้งนี้ประกอบด้วย 1) ผู้บริหารและครูโรงเรียน
บ้านทุ่งเชือก จำนวน 10 คน 2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านทุ่งเชือก จำนวน 117 คน 3) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านทุ่งเชือก จำนวน117 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ประกอบ 1) แบบประเมินผลดำเนินงานตามการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียน ของนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งเชือก ตามรูปแบบการประเมินของซิป (CIPP Model) ด้านสภาพเเวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับระดับพฤติกรรมการใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งเชือก 3) เเบบสอบถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อโครงการส่งเสริมการอ่าน เพื่อพัฒนาคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียน 4) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่าน เพื่อพัฒนาคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งเชือก เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scal ) 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิตค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเเละการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการประมินโครงการพบว่า
1. ผลการประเมินด้านสภาพเเวดล้อมตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด และมีความคิดเห็นใกล้เคียงกันเมื่อพิจารณาเเป็นรายข้อโดยเรียงความคิดเห็นมากไปน้อย ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1) เพื่อส่งเสริมการอ่านและปลูกฝังคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียน 2) เพื่อกระตุ้นและสนับสนุนให้นักเรียนสนใจการอ่านอยู่เสมอ และ 3) เพื่อให้นักเรียนเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการอ่านเป็นการสร้างเจตคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการอ่านให้แก่นักเรียน
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า ตามความคิดเห็นของผู้บริหารเเละครูโดยภาพรวมอยู่ในระตับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อโดยเรียงความคิดเห็นมากไปน้อย ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1) ผู้บริหารและครูในโรงเรียนให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการดำเนินงาน 2) วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมและ 3) วัสดุทางด้านโสตทัศนศึกษาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมมีความเพียงพอ
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการตามความคิดเห็นผู้บริหารเเละครูโดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก และมีความคิดเห็นใกล้เคียงกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อโดยเรียงความคิดเห็นจากมากไปน้อย ข้อที่มีค่าเฉลรี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ1) มีการพัฒนากลวิธีในการดำเนินงานของโครงการให้ทันต่อ เหตุการณ์ 2)นักวิชาการศึกษาได้มาสังเกตการจัดกิจกรรมต่าง ๆ 3) มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบงานอย่างชัดเจนและจัดให้มีกิจกรรมการทำหนังสือเล่มเล็ก
4. ผลการประเมินด้านผลผลิต
4.1 ตามความคิดเห็นผู้บริหารและครูโดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากเเละมีความคิดเห็นใกล้เคียงกันเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อโดยเรียงความคิดเห็นจากมากไปน้อย ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรกคือ 1) ครูมีความพึงพอใจต่อคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนที่พัฒนาขึ้น 2) นักเรียนที่ร่วมกิจกรรมมีนิสัยรักการอ่านและมีคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนและ 3) นักเรียนเกิดทักษะด้านการอ่านเพื่อพัฒนาคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียน
4.2 ตามความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการพฤติกรรมการใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากและมีความคิดเห็นใกล้เคียงกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อโดยเรียงความคิดเห็นจากมากไปน้อย ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับเเรก คือ 1) ข้าพเจ้ากล้าถามครูในชั้นเรียนเมื่อสงสัยหรือไม่เข้าใจบทเรียน 2) ข้าพเจ้ามาโรงเรียนเพื่อแสวงหาความรู้ด้วยความกระตือรือร้น และ 3) ข้าพเจ้าใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม
4.3 ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อโครงการส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาคุณลักษณะใฝ่เรียนใฝ่รู้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งเชือก โดยภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อโดยเรียงความคิดเห็นจากมากไปน้อย ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ1) การจัดกิจกรรมค่ายรักการอ่าน 2) จัดกิจกรรมที่นักเรียนมีส่วนร่วม เช่นการจัดสัปดาห์ห้องสมุด กิจกรรมการแข่งขันต่าง ๆ การเล่านิทาน สนทนาเกี่ยวกับหนังสือต่าง ๆ และ3) การประดับตกแต่งห้องสมุดเพื่อบรรยากาศผ่อนคลาย
4.4 ตามความคิดเห็นของผู้ครองนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากและมี
ความคิดเห็นใกล้เคียงกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อโดยเรียงความคิดเห็นจากมากไปน้อย ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1) โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมเหมาะกับการเป็นสถานที่ศึกษาหาความรู้ 2) โรงเรียนจัดกิจกรรมการส่งเสริมการอ่านอย่างเพียงพอ และ3) โรงเรียนเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองแสดงความคิดเห็นในการจัดกิจกรรมการเรียน