บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) หาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนภูเขียว จำนวน 19 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา คือ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 8 ชุด
แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.79 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.79 แบบสอบถามความพึงพอใจ 1 ฉบับ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (rating scale) 5 ระดับ จำนวน 19 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.82 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( )
ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t-test ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 85.72/91.58 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.8476 หรือคิดเป็น
ร้อยละ 84.76 แสดงว่า โดยภาพรวมนักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 84.76 ซึ่งมีดัชนีประสิทธิผล
สูงกว่า .50 เป็นไปตามสมมติฐานของการศึกษา
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนของนักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 13.42 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 2.29 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียน มีค่าเฉลี่ย( ) เท่ากับ 27.47 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.84 เมื่อทดสอบค่าเฉลี่ยของคะแนนการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เป็นไปตามสมมติฐานของการศึกษา
4. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ย ( ) ทั้งฉบับ เท่ากับ 4.44 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D.) เท่ากับ 0.85 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เป็นไปตามสมมติฐานของการศึกษา
สรุปได้ว่า แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิผลช่วยให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์การเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง เนื่องจากหลังใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้น แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ จึงเป็นสื่อนวัตกรรมที่ช่วยให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ