ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยโครงงานสู่เศรษฐกิจพอเพียง เรื่องการวาดภาพศิลปวัฒนธรรมเพชรบูรณ์บนวั

บทคัดย่อ

ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยโครงงานสู่เศรษฐกิจพอเพียง เรื่องการวาดภาพศิลปวัฒนธรรมเพชรบูรณ์บนวัสดุท้องถิ่นเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นางจิราพร แก้วแดง

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

ที่ทำงาน โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล สังกัดเทศบาลเมืองหล่มสัก

อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สำรวจข้อมูลพื้นฐานการจัดการเรียนรู้โดยโครงงาน (2) สร้างและตรวจสอบคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยโครงการสู่เศรษฐกิจพอเพียงและแบบทดสอบ (3) ทดลองและศึกษาผลการทำโครงงานสู่เศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง การวาดภาพศิลปวัฒนธรรมเพชรบูรณ์บนวัสดุท้องถิ่นเชิงสร้างสรรค์ จากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยโครงงานสู่เศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง การวาดภาพศิลปวัฒนธรรมเพชรบูรณ์บนวัสดุท้องถิ่นเชิงสร้างสรรค์ วิธีการวิจัยดำเนินตามกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มี 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 วิจัย(research) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานการจัดการเรียนรู้โดยโครงงาน ขั้นตอนที่ 2 พัฒนา(development) การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ และแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจดูความเหมาะสม ขั้นตอนที่ 3 วิจัย (research) การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานสู่เศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง การวาดภาพศิลปวัฒนธรรมเพชรบูรณ์บนวัสดุท้องถิ่นเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน เครื่องมือการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินการทำโครงงาน แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ขั้นตอนที่ 4 วิจัย (development) การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยโครงงานสู่เศรษฐกิจพอเพียง เรื่องการวาดภาพศิลปวัฒนธรรมเพชรบูรณ์บนวัสดุท้องถิ่นเชิงสร้างสรรค์ เครื่องมือการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย 1) ข้อมูลพื้นฐานของครูเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้โดยโครงงาน ประกอบด้วย แบบสอบถามเพื่อการวิจัยการจัดการเรียนรู้โดยโครงงาน 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยโครงงานสู่เศรษฐกิจพอเพียง มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด และความสอดคล้องของแบบทดสอบก่อนเรียนและหลัง อยู่ระหว่าง 0.60 – 1.00 3) ผลการทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้โดยโครงงานสู่เศรษฐกิจพอเพียง พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01และนักเรียนมีความสามารถในการทำ อยู่ในระดับดีมาก 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยโครงงานสู่เศรษฐกิจพอเพียง ด้านประโยชน์ที่ได้รับ พบว่านักเรียนเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาไทยศิลปวัฒนธรรมเพชรบูรณ์ อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย จิ : [18 มี.ค. 2561 เวลา 01:25 น.]
อ่าน [4292] ไอพี : 223.207.244.229
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,615 ครั้ง
การประยุกต์ทฤษฎีการแพร่กระจาย การปรับปรุงโปรแกรมสื่อในโรงเรียน
การประยุกต์ทฤษฎีการแพร่กระจาย การปรับปรุงโปรแกรมสื่อในโรงเรียน

เปิดอ่าน 12,422 ครั้ง
ปิดถนน 13 สาย จัดงานวันพ่อ 3 -13 ธ.ค. นี้
ปิดถนน 13 สาย จัดงานวันพ่อ 3 -13 ธ.ค. นี้

เปิดอ่าน 12,295 ครั้ง
9 หนทางสู่การลดน้ำหนักแบบทันใจ
9 หนทางสู่การลดน้ำหนักแบบทันใจ

เปิดอ่าน 32,177 ครั้ง
กินยาแรงเกินไปทำให้เบลอได้
กินยาแรงเกินไปทำให้เบลอได้

เปิดอ่าน 11,263 ครั้ง
10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง
10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง

เปิดอ่าน 25,256 ครั้ง
วิธีลดน้ำหนักขั้นเทพ! ค่อยๆ ลด แต่ลดได้จริง
วิธีลดน้ำหนักขั้นเทพ! ค่อยๆ ลด แต่ลดได้จริง

เปิดอ่าน 88,097 ครั้ง
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก

เปิดอ่าน 49,623 ครั้ง
10 อันดับของผลไม้ที่มี "วิตามินอี" สูง
10 อันดับของผลไม้ที่มี "วิตามินอี" สูง

เปิดอ่าน 28,406 ครั้ง
บทบาทของสื่อมัลติมีเดีย
บทบาทของสื่อมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 19,113 ครั้ง
โปรแกรมเฮ้าส์คีปเปอร์
โปรแกรมเฮ้าส์คีปเปอร์

เปิดอ่าน 9,951 ครั้ง
จัดสวนสวย..เสริมฮวงจุ้ยบ้าน
จัดสวนสวย..เสริมฮวงจุ้ยบ้าน

เปิดอ่าน 13,085 ครั้ง
7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย
7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย

เปิดอ่าน 1,830 ครั้ง
วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง
วิธีปลูกผักอีตู่ (แมงลัก) ในกระถาง

เปิดอ่าน 14,936 ครั้ง
เสียงประทัดส่งผลกระทบผู้ป่วย "โรคหัวใจ-ความดันโลหิต"
เสียงประทัดส่งผลกระทบผู้ป่วย "โรคหัวใจ-ความดันโลหิต"

เปิดอ่าน 88,514 ครั้ง
จะใช้คำว่าทัศนะและทรรศนะได้เมื่อไหร่
จะใช้คำว่าทัศนะและทรรศนะได้เมื่อไหร่

เปิดอ่าน 13,284 ครั้ง
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์
เปิดอ่าน 11,755 ครั้ง
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
เปิดอ่าน 12,707 ครั้ง
คุณภาพการศึกษาดูจากหลักฐานขยะเท่านั้นหรือ!
คุณภาพการศึกษาดูจากหลักฐานขยะเท่านั้นหรือ!
เปิดอ่าน 15,161 ครั้ง
ลายมือผู้วิเศษ
ลายมือผู้วิเศษ
เปิดอ่าน 15,586 ครั้ง
Gen Y วายร้ายจริงหรือ (จบ)
Gen Y วายร้ายจริงหรือ (จบ)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ