ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เชิงสืบเสาะแบบร่วมมือ ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริม

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เชิงสืบเสาะแบบร่วมมือ ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่อผู้วิจัย นายภัทรพงษ์ เมธาคุณวุฒิ

สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลหนองหญ้าม้า สังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด

ปีที่วิจัย 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้

เชิงสืบเสาะแบบร่วมมือ ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) พัฒนารูปแบบการเรียนรู้

เชิงสืบเสาะแบบร่วมมือ ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงสืบเสาะแบบร่วมมือ ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) ประเมินและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้เชิงสืบเสาะแบบร่วมมือ ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 จำนวน 38 คน ปีการศึกษา 2558 ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย ด้วยการจับสลาก ใช้ห้องเรียนในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการเรียนรู้

เชิงสืบเสาะแบบร่วมมือ ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบประเมินความเหมาะสม

ของรูปแบบการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทีแบบไม่อิสระ (t-test แบบ Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ พบว่า ควรมีการจัดการเรียนรู้ ที่เร้าความสนใจ เน้นการสืบเสาะ ค้นคว้า หาความเรียนรู้ด้วยตนเอง ปฏิบัติจริงด้วยการทดลอง มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ปฏิสัมพันธ์กับสื่อที่หลากหลาย ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและพัฒนาแนวการสอนวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

2. รูปแบบการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า “SIDEAM Model” มีองค์ประกอบ คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการเรียนรู้ 4) สาระความรู้ 5) สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ 6) หลักการตอบสนอง 7) เงื่อนไข ในการนำรูปแบบไปใช้ 8) สิ่งสนับสนุน 9) การประเมินผล มีกระบวนการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นกระตุ้นแนวคิด (Support Point Concept : S) 2) ขั้นสืบเสาะ ค้นคว้า และทดลอง (Inquire Ascertain and Axperiment : I) 3) ขั้นอภิปรายและสรุปผล (Discussion and Conclude : E) 4) ขั้นประเมิน (Evaluation : E) 5) ขั้นประยุกต์และนำไปใช้ (Apply and Reuse : A) 6) ขั้นสร้างผลงาน (Make Work : M) รูปแบบการเรียนรู้เชิงสืบเสาะแบบร่วมมือ ร่วมกับ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.13/80.61 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนรู้เชิงสืบเสาะ แบบร่วมมือ ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการ

ทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.58 , S.D. = 0.03)

โพสต์โดย คนในความฝัน : [16 มี.ค. 2561 เวลา 15:11 น.]
อ่าน [5228] ไอพี : 180.183.18.209
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,361 ครั้ง
ขอบพระคุณคอลัมน์ "คลิกเฮียร์" หนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"
ขอบพระคุณคอลัมน์ "คลิกเฮียร์" หนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"

เปิดอ่าน 10,220 ครั้ง
วิธีแบกเป้ไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย
วิธีแบกเป้ไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย

เปิดอ่าน 7,167 ครั้ง
Facebook แง้มกำลังเพิ่มปุ่มแสดงความเสียใจ บนเฟซบุ๊ก
Facebook แง้มกำลังเพิ่มปุ่มแสดงความเสียใจ บนเฟซบุ๊ก

เปิดอ่าน 69,332 ครั้ง
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)

เปิดอ่าน 11,751 ครั้ง
ออกกำลังกันมะเร็งทรวงอก เฉพาะสตรีวัยทองที่มีรูปร่างสมส่วน
ออกกำลังกันมะเร็งทรวงอก เฉพาะสตรีวัยทองที่มีรูปร่างสมส่วน

เปิดอ่าน 16,075 ครั้ง
โหงวเฮ้งดี เปลี่ยนได้ไ่ม่ยาก!
โหงวเฮ้งดี เปลี่ยนได้ไ่ม่ยาก!

เปิดอ่าน 10,331 ครั้ง
5 กิจกรรมส่งความสุข เพื่อสมองลูกรัก
5 กิจกรรมส่งความสุข เพื่อสมองลูกรัก

เปิดอ่าน 42,716 ครั้ง
ความสำคัญและความจำเป็นของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
ความสำคัญและความจำเป็นของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน

เปิดอ่าน 194 ครั้ง
ซื้อขายมือถือตรงสเปค ได้ที่ตลาดออนไลน์ ENNXO ครบทุกแบรนด์ยอดฮิต
ซื้อขายมือถือตรงสเปค ได้ที่ตลาดออนไลน์ ENNXO ครบทุกแบรนด์ยอดฮิต

เปิดอ่าน 14,384 ครั้ง
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook

เปิดอ่าน 17,771 ครั้ง
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา

เปิดอ่าน 14,777 ครั้ง
การจัดโต๊ะหมู่บูชา ที่ถูกต้องในพิธีต่างๆ โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
การจัดโต๊ะหมู่บูชา ที่ถูกต้องในพิธีต่างๆ โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

เปิดอ่าน 12,578 ครั้ง
ทุกข์ที่สุด จะหลุดได้อย่างไร
ทุกข์ที่สุด จะหลุดได้อย่างไร

เปิดอ่าน 22,843 ครั้ง
หมอเตือนอย่ากิน"แมลงทอด"กับ"เหล้า-เบียร์"
หมอเตือนอย่ากิน"แมลงทอด"กับ"เหล้า-เบียร์"

เปิดอ่าน 23,580 ครั้ง
ชาญี่ปุ่น หรือชาอังกฤษใครมีประโยชน์กว่ากัน
ชาญี่ปุ่น หรือชาอังกฤษใครมีประโยชน์กว่ากัน

เปิดอ่าน 15,999 ครั้ง
ตัวอย่างรายชื่อหนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย ปีการศึกษา 2561
ตัวอย่างรายชื่อหนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย ปีการศึกษา 2561
เปิดอ่าน 20,792 ครั้ง
LearnSquare
LearnSquare
เปิดอ่าน 20,548 ครั้ง
ผมสวยด้วยผักสวนครัว
ผมสวยด้วยผักสวนครัว
เปิดอ่าน 20,783 ครั้ง
8 วิธีปรับโฉม "โรงเรียน" ใหม่ จัดอย่างไรให้เด็กเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
8 วิธีปรับโฉม "โรงเรียน" ใหม่ จัดอย่างไรให้เด็กเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
เปิดอ่าน 26,171 ครั้ง
ความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อทันใจ" วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่
ความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อทันใจ" วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ