ผู้รายงาน : ธานินทร์ พิลึก
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการศึกษาคือ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง วาดเส้น เล่นแสงเงา กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ทัศนศิลป์)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเรื่อง วาดเส้น เล่นแสงเงา กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ทัศนศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อแบบฝึกทักษะ เรื่อง วาดเส้น เล่นแสงเงา กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ทัศนศิลป์) ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดทุ่งสวน) สังกัดเทศบาลเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 89 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดทุ่งสวน) สังกัดเทศบาลเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 30 คน เครื่องมือในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะ 2) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 5) แบบทดสอบท้ายแบบฝึกทักษะ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบคะแนนของกลุ่มตัวอย่าง
โดยใช้ t test (Dependent)
สรุปผลการศึกษา
1. การหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
(ทัศนศิลป์) เรื่อง วาดเส้น เล่นแสงเงา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยระหว่างการใช้แบบฝึกทักษะ เท่ากับ 82.47 และร้อยละของคะแนนทดสอบหลังเรียนเท่ากับ 82.00 แสดงว่าแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ทัศนศิลป์) เรื่อง วาดเส้น เล่นแสงเงา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ 82.47 / 82.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ทัศนศิลป์) เรื่อง วาดเส้น เล่นแสงเงา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ทัศนศิลป์) เรื่อง วาดเส้น เล่นแสงเงา โดยภาพรวม พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ส่งเสริมนักเรียนประเมิน ปรับปรุงตนเอง และยอมรับผู้อื่น ตลอดจนสนใจใฝ่หาความรู้อย่าง รองลงมา ได้แก่ ความเหมาะสมในการจัดพิมพ์รูปเล่มของแผนการจัดการเรียนรู้ และข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด ได้แก่
ส่งเสริมผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน