บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมรักการอ่าน
โรงเรียนบ้านบางมัน
ผู้ศึกษา นางกาญจนาวดี หวังดีกลาง
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านบางมัน
ปีการศึกษา 2559
การรายงานผลการประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านบางมัน ปีการศึกษา 2559 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ประชากรที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ ผู้บริหาร คณะครู และนักเรียนโรงเรียนบ้านบางมัน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ คณะครู
จำนวน 13 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 177 คน รวม 190 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบประเมิน แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 9 ฉบับ ฉบับที่ 1 แบบประเมินด้านสภาวะแวดล้อมหรือบริบท ฉบับที่ 2 แบบประเมินด้านปัจจัยพื้นฐาน ฉบับที่ 3 แบบประเมินด้านกระบวนการ ฉบับที่ 4 แบบประเมินด้านผลผลิต ประกอบด้วย ชุดที่ 1 ประเมินกิจกรรมโครงการส่งเสริมรักการอ่าน ชุดที่ 2 ประเมินนิสัยรักการอ่าน ชุดที่ 3 ประเมินพฤติกรรมนักเรียน ชุดที่ 4 ประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ชุดที่ 5 แบบประเมินความสามารถในการอ่านของนักเรียน ชุดที่ 6 แบบประเมินความสามารถในการเขียนของนักเรียน เครื่องมือความเที่ยงตรงตามเนื้อหาระหว่าง 0.83 ถึง 0.89 และมีความเชื่อมั่นระหว่าง 0.71 ถึง 0.75 การประเมินสรุปได้ดังนี้
1. ด้านบริบทหรือสภาวะแวดล้อม ผู้บริหารคณะครูมีความคิดเห็นว่า บริบทหรือสภาวะแวดล้อมของโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.66 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด การกำหนดหลักการของโครงการสอดคล้องกับสภาพปัญหา การกำหนดเป้าหมายของโครงการสอดคล้องกับปัญหา และวัตถุประสงค์ของโครงการ การกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับปัญหา และหลักการของโครงการ การเตรียมการในสถานศึกษาส่งเสริมการดำเนินงานตามโครงการ การกำหนดหลักการของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายของโรงเรียน
2. ด้านปัจจัยพื้นฐานโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.58 ผู้บริหารและคณะครูมีความเห็นว่า รายการที่มีความพร้อมซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ วัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับการดำเนินงานเพียงพอ อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ มีสื่อ เทคโนโลยีในการดำเนินกิจกรรมโครงการเพียงพอ ผู้ปกครองให้ความร่วมมือและสนับสนุนการจัดกิจกรรม
3. ด้านกระบวนการ โครงการส่งเสริมรักการอ่าน ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นว่า
ด้านกระบวนการ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ มีคำสั่งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบ มีการกำหนดปฏิทินการทำงานชัดเจน และ มีการกำหนดกิจกรรมได้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานศึกษา
4. ด้านผลผลิต
4.1 ผลการประเมินกิจกรรมโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52 เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ กิจกรรมวางทุกอย่างอ่านทุกวัน กิจกรรมวันสำคัญ กิจกรรมได้ดีเพราะพี่สอน และกิจกรรมเสียงตามสาย
4.2 ผลการป ระเมินนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.49 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักเรียนอ่านหนังสือด้วยความตั้งใจเป็นเวลานาน นักเรียนชอบอ่านหนังสือการ์ตูนนอกจากหนังสือเรียน นักเรียนจดบันทึกองค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน นักเรียนชอบอ่านหนังสือ และจัดเก็บหนังสือเป็นอย่างดี
4.3 ผลการประเมินพฤติกรรมในการเรียนของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.40 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ นักเรียนเข้าเรียนตรงเวลา นักเรียนร่วมกิจกรรมเต็มเวลา นักเรียนตั้งใจฟังครูอธิบาย พูดแนะนำ นักเรียนสืบค้นสาระความรู้เพิ่มเติม
4.4 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.43 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ การมีส่วนร่วมของครู กิจกรรมโครงการทุกกิจกรรมน่าสนใจ ความพึงพอใจในผลงานของตนเองที่เกิดจากกิจกรรมโครงการ
4.5 ผลการประเมินความสามารถในการอ่านของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.52 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ อ่านเว้นวรรคตอนถูกต้อง มีพัฒนาการอ่าน ไม่อ่านข้าม
อ่านเพิ่ม หรือตู่คำ
4.6 ผลการประเมินความสามารถในการเขียนของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.57 ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ความสะอาดสวยงามเป็นระเบียบ เขียนถูกต้องด้วยตนเอง เขียนเสร็จทันเวลาตามที่กำหนด