ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การวิจัยเรื่องการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยการจัดการ

บทคัดย่อ

คำสำคัญ : ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ / การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานผสมผสาน แนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS)

วรัญญา มีรอด : การวิจัยเรื่องการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานผสมผสานแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS). 255 หน้า.

การวิจัยเชิงทดลอง แบบแผนการวิจัยแบบ แบบกลุ่มเดียวสอบก่อนและหลัง มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานผสมผสานแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) 2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานผสมผสานแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) 3) เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานผสมผสานแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 จำนวน 37 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด (กวีธรรมสาร) อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยบรรยากาศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยแบบโครงงานเป็นฐานผสมผสานแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ก่อนและหลังเรียน (Pretest-Posttest) หน่วยบรรยากาศ จำนวน 1 ฉบับเป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ (Multipal Choice) ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 50 ข้อ 3) แบบวัดเจตคติต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานผสมผสานแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม (STS) จำนวน 40 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) การทดสอบค่าทีไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์หลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานผสมผสานแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยที่กำหนดไว้

2. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานผสมผสานแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) เกิดพฤติกรรมในด้านการเรียนรู้ด้วยตนเอง การมีส่วนร่วมในการทำงานกลุ่ม สามารถนำสิ่งใกล้ตัวมาศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล วิเคราะห์ ออกแบบและวางแผนการทำงานอย่างมีลำดับขั้นตอน สามารถค้นคว้าข้อมูล รวบรวมและสรุปผลข้อค้นพบด้วยตนเอง สามารถนำสิ่งที่ค้นพบนำเสนอให้ผู้อื่นเข้าใจได้ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน นักเรียนมีความกล้าคิด กล้าแสดงออก กล้าแสดงความคิดเห็น สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

3. เจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานผสมผสานแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับดังนี้ ด้านประโยชน์ของการจัดการเรียนรู้ ด้านบรรยากาศในชั้นเรียน ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และด้านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ตามลำดับ

ABSTRACT

Keywords: Learning achievement/ Project-Based Learning through Science Technology and Society (STS).

Warunya Meerod : The development of science achievement of Mathayomsuksa 1 students using Project-Based Learning through Science Technology and Society (STS). 255 pp.

This research is pre-experimental with one-group pre-test post-test design. The objectives were 1) to compare science achievement of Mathayomsuksa 1 students before and after using Project-Based Learning through Science Technology and Society (STS). 2) to study behaviors the outcomes of while – learning process using Project-Based Learning through Science Technology and Society (STS). 3) to study the attitudes toward the approach of Matayomsuksa 1 students. The sample consisted of 37 students from Matayomsuksa 1/3 in the second semester of the 2015 academic year from Tasaban Wattaitalad School, Uttaradit, using simple random sampling technique with a classroom unit. The research instruments consisted of a lesson plan for the Project-based learning through science technology and society (STS), a learning achievement test, questionnaire of attitude towards taught by using Project-Based Learning through Science Technology and Society (STS). Data were analyzed by mean ( ), standard deviation ( ), t-test independent and content analysis

The results were as follows:

1. The average scores of science achievement using Project-Based Learning through Science Technology and Society (STS) in the post-test were significantly higher than pre-test scores at .05.

2. The students showed the development in learning motivation and self-directed learning as well abilities in analytical thinking, problem solving, and data collecting and conclusion making. They also were capable of working in team, sharing opinions and applying knowledge to their daily life.

3. The attitudes towards the approach of Matayomsuksa One students were at a high level.

โพสต์โดย ครูพันธุ์ใหม่ : [28 ก.พ. 2561 เวลา 09:44 น.]
อ่าน [5676] ไอพี : 171.5.248.200
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 110,089 ครั้ง
ทฤษฎีกลุ่มพุทธิปัญญานิยม
ทฤษฎีกลุ่มพุทธิปัญญานิยม

เปิดอ่าน 10,140 ครั้ง
เพนต์หน้าพิลึก! กระแสฮิตโจ๋ยุ่น
เพนต์หน้าพิลึก! กระแสฮิตโจ๋ยุ่น

เปิดอ่าน 24,058 ครั้ง
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม

เปิดอ่าน 14,038 ครั้ง
วิธีแก้เคราะห์ สะเดาะกรรมให้ร่ำรวย
วิธีแก้เคราะห์ สะเดาะกรรมให้ร่ำรวย

เปิดอ่าน 12,542 ครั้ง
"บรมครูอินเตอร์เน็ต" ชี้อีก 50 ปี จะไม่มีหนังสือพิมพ์กระดาษ
"บรมครูอินเตอร์เน็ต" ชี้อีก 50 ปี จะไม่มีหนังสือพิมพ์กระดาษ

เปิดอ่าน 8,426 ครั้ง
แนวการสอนซ่อมเสริมการอ่านและการเขียน ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1-7
แนวการสอนซ่อมเสริมการอ่านและการเขียน ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1-7

เปิดอ่าน 305,683 ครั้ง
แบบคำขอวิทยฐานะ ก.ค.ศ 1 ก.ค.ศ 1/1 ก.ค.ศ 2 และ 3 ฉบับ word
แบบคำขอวิทยฐานะ ก.ค.ศ 1 ก.ค.ศ 1/1 ก.ค.ศ 2 และ 3 ฉบับ word

เปิดอ่าน 33,098 ครั้ง
7-11 สาขาแรกอยู่ที่ไหน
7-11 สาขาแรกอยู่ที่ไหน

เปิดอ่าน 26,845 ครั้ง
การตัดแต่งต้นไม้
การตัดแต่งต้นไม้

เปิดอ่าน 14,057 ครั้ง
สธ. เตือนดื่มน้ำมากเกินไม่ดี เสี่ยงสมองบวม เสียชีวิตได้
สธ. เตือนดื่มน้ำมากเกินไม่ดี เสี่ยงสมองบวม เสียชีวิตได้

เปิดอ่าน 20,656 ครั้ง
การประดับพระบรมฉายาลักษณ์
การประดับพระบรมฉายาลักษณ์

เปิดอ่าน 26,418 ครั้ง
The 90/90 Standard
The 90/90 Standard

เปิดอ่าน 19,324 ครั้ง
Supernova : ซูเปอร์โนวา, มหานวดารา
Supernova : ซูเปอร์โนวา, มหานวดารา

เปิดอ่าน 56,896 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 13 การเตะโทษ

เปิดอ่าน 11,894 ครั้ง
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้

เปิดอ่าน 234,771 ครั้ง
การนับตัวเลข1-10(ภาษาจีน)
การนับตัวเลข1-10(ภาษาจีน)
เปิดอ่าน 51,383 ครั้ง
ฟุตปาธ-บาทวิถี : ภาษาไทยน่ารู้
ฟุตปาธ-บาทวิถี : ภาษาไทยน่ารู้
เปิดอ่าน 7,611 ครั้ง
อะโดบีเผยผลการศึกษาชี้ นักเรียนรุ่น Gen Z และครูในไทยมองว่าความคิดสร้างสรรค์คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
อะโดบีเผยผลการศึกษาชี้ นักเรียนรุ่น Gen Z และครูในไทยมองว่าความคิดสร้างสรรค์คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
เปิดอ่าน 16,450 ครั้ง
"ข่า" แก้ไอเจ็บคอเสมหะผู้ใหญ่
"ข่า" แก้ไอเจ็บคอเสมหะผู้ใหญ่
เปิดอ่าน 9,889 ครั้ง
สอนลูกรู้จักใช้จ่าย
สอนลูกรู้จักใช้จ่าย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ