ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนบ้านเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เข

ชื่อเรื่อง: รายงานการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพโรงเรียนบ้านเป้า

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1

ผู้ประเมิน : นายมานพ มาสุข

ปีที่ประเมิน : 2559

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพของโรงเรียน บ้านเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 ในรูปแบบจำลองซิปป์(CIPP Model) และเพื่อศึกษาแบบปฏิบัติที่ดี(Best Practice) ของโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพที่ผลการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพสูงที่สุดของกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษากลุ่มโรงเรียนบ้านหลวง

กลุ่มเป้าหมายแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ

1) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนบ้านเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 ในครั้งนี้ได้แก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ คือ ผู้บริหารโรงเรียนจำนวน 1 คน ข้าราชการครูจำนวน 7 คน พนักงานราชการจำนวน 1 คน ครูอัตราจ้างจำนวน 2 คน คณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 7 คน(ไม่นับรวมผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้แทนครู) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอจำนวน 2 คน ผู้ปกครองจำนวน 50 คน นักเรียนช่วงชั้นที่ 2 จำนวน 50 คน รวมจำนวนประชากรทั้งสิ้นจำนวน 120 คน

2) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการหาแบบปฏิบัติที่ดี(Best Practice) ของโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพที่ผลการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพสูงที่สุดของกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษากลุ่มโรงเรียนบ้านหลวงและเป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับทองจำนวน 2 โรงเรียน ประกอบด้วย 1) ผู้บริหารโรงเรียนจำนวน 2 คน 2) ครูอนามัยโรงเรียนโรงเรียนละ 1 คน 3) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 2 คน 4) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวน 2 คน 5) ประธานนักเรียนจำนวน 2 คน 6) ตัวแทนผู้ปกครองจำนวน 2 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) รวมจำนวนทั้งสิ้น 12 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินมี 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 สำหรับ ผู้บริหาร ข้าราชการครู พนักงานราชการ ครูอัตราจ้างและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เป็นผู้ตอบ ฉบับที่ 2 สำหรับนักเรียน ผู้ปกครองและกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นผู้ตอบ ทั้งสองฉบับเป็นเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale) กำหนดคำตอบข้อความ 5 ระดับซึ่งมีความเชื่อมั่น(Reliability) เท่ากับ 0.94 และ 0.98 ตามลำดับ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for windows สถิติที่ใช้คือค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ด้านบริบท(Context) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่อยู่ในระดับมากที่สุด คือ วัตถุประสงค์สอดคล้องกับนโยบายและแผนพัฒนาการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา น่าน เขต 1 รองลงมา คือ ผู้บริหารมีความชัดเจนในการดำเนินโครงการ ส่วนข้อที่ค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ กำหนดบทบาทหน้าที่ของบุคลากรก่อให้เกิดความร่วมมือในการดำเนินงาน

2. ด้านปัจจัยนำเข้า(Input) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ บุคลากรรู้วิธีการปฏิบัติกิจกรรมของโครงการ รองลงมาคือโรงเรียนมีสถานที่ประกอบการและรับประทานอาหารสะอาดถูกหลักอนามัย ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ การมอบหมายงานมีความเหมาะสม

3. ด้านกระบวนการ(Process) โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ประชุมวางแผนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการดำเนินโครงการ รองลงมา คือ โรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ นำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมตามโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

4. ด้านผลผลิต(Process) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้เจ็บป่วย รองลงมาคือ การเผยแพร่ความรู้ข่าวสารเกี่ยวกับ โรคต่างๆ ที่มีตามฤดูอย่างทันท่วงทีและข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ การขาดเรียนของนักเรียนจากการเจ็บป่วยมีน้อยลง

5 แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาและผู้ปกครองที่มีต่อการบริการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือการฝึกให้เด็กรู้จักการแปรงฟันอย่างถูกวิธีหลังอาหาร รองลงมา คือการให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่อง การล้างมือให้สะอาดก่อนหลังรับประทานอาหารและหลังการขับถ่ายแก่นักเรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือการให้ความรู้ในเรื่องการกินอาหารที่สุกใหม่ๆ สะอาดปราศจากสารอันตรายและหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด

6. การศึกษาแบบปฏิบัติที่ดี(Best Practice) ของโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพที่ผลการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพสูงที่สุดของกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษากลุ่มโรงเรียนบ้านหลวง พบว่า ปัจจัยส่งเสริมต่อการพัฒนาโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ คือ ภาวะผู้นำและความกระตือรือร้นของผู้บริหาร ความรู้สึกเป็นเจ้าของโครงการและการทำงานเป็นทีมของผู้รับผิดชอบโครงการ การมีส่วนร่วมของชุมชนผู้ปกครองและนักเรียน การสนับสนุนและให้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทำให้โครงการประสบผลสำเร็จและนำมาสู่การเป็นโรงเรียนต้นแบบในด้านการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี

โพสต์โดย นพ : [28 ก.พ. 2561 เวลา 08:41 น.]
อ่าน [3224] ไอพี : 118.172.107.110
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 25,689 ครั้ง
วิธีลดต้นขา แบบญี่ปุ่น ง่ายๆ ไม่เสียตังค์
วิธีลดต้นขา แบบญี่ปุ่น ง่ายๆ ไม่เสียตังค์

เปิดอ่าน 40,759 ครั้ง
Adjectives - Determiners
Adjectives - Determiners

เปิดอ่าน 36,104 ครั้ง
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ชั้นม. 3
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ชั้นม. 3

เปิดอ่าน 9,334 ครั้ง
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้รอดพ้นโรคร้ายได้มากถึง1ใน5
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้รอดพ้นโรคร้ายได้มากถึง1ใน5

เปิดอ่าน 10,769 ครั้ง
เกณฑ์ราคากลางและคุณลักษณะพื้นฐานครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562
เกณฑ์ราคากลางและคุณลักษณะพื้นฐานครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562

เปิดอ่าน 21,279 ครั้ง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง

เปิดอ่าน 11,807 ครั้ง
ดูให้รู้ : โรงเรียนสร้างเด็กสุดยอดผู้นำ
ดูให้รู้ : โรงเรียนสร้างเด็กสุดยอดผู้นำ

เปิดอ่าน 22,868 ครั้ง
รับชมหรือยัง? แกะรอย "มาเฟีย ศธ." เงามืด "ปฏิรูปวงการศึกษา"
รับชมหรือยัง? แกะรอย "มาเฟีย ศธ." เงามืด "ปฏิรูปวงการศึกษา"

เปิดอ่าน 15,316 ครั้ง
การดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บคอ
การดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บคอ

เปิดอ่าน 15,632 ครั้ง
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้

เปิดอ่าน 17,840 ครั้ง
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022

เปิดอ่าน 9,155 ครั้ง
ฟรีแวร์สำหรับแสดงและแก้ไขรูปภาพ
ฟรีแวร์สำหรับแสดงและแก้ไขรูปภาพ

เปิดอ่าน 15,563 ครั้ง
เสมาการ์ตูน
เสมาการ์ตูน

เปิดอ่าน 56,844 ครั้ง
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น

เปิดอ่าน 9,529 ครั้ง
ใยอาหาร สำคัญกว่าที่คิด
ใยอาหาร สำคัญกว่าที่คิด

เปิดอ่าน 3,778 ครั้ง
ฮิคิโคโมริ ซินโดรม โรคเก็บตัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตุเมื่อลูกเริ่มหนีห่างจากสังคม
ฮิคิโคโมริ ซินโดรม โรคเก็บตัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตุเมื่อลูกเริ่มหนีห่างจากสังคม
เปิดอ่าน 11,068 ครั้ง
ปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาระดับภูมิภาค สะท้อนความล้มเหลวของใคร หรือจะหนีเสือปะจระเข้ โดย ณรงค์ ขุ้มทอง
ปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาระดับภูมิภาค สะท้อนความล้มเหลวของใคร หรือจะหนีเสือปะจระเข้ โดย ณรงค์ ขุ้มทอง
เปิดอ่าน 36,815 ครั้ง
Why Do We Get Goose Bumps? (ทำไมเราจึงเกิด อาการขนลุก)
Why Do We Get Goose Bumps? (ทำไมเราจึงเกิด อาการขนลุก)
เปิดอ่าน 8,379 ครั้ง
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา
เปิดอ่าน 13,142 ครั้ง
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ