ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนวัดประดู่ ปีการศึกษา 2559

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน

โรงเรียนวัดประดู่ ปีการศึกษา 2559

ชื่อผู้รายงาน นางสาววัชราภรณ์ นิยม

ปีที่รายงาน 2559

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนวัดประดู่ ปีการศึกษา 2559 ในการประเมินครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ประเมินโครงการด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต โดยประยุกต์รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ตรวจสอบโครงการและพัฒนาโครงการด้วยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ตามลักษณะของโครงการที่ดี และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 29 คน ครู จำนวน 3 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 29 คน ได้มาโดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหา ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) และหาค่าความเชื่อมั่น (- Coefficient) ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสม

อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการ พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ พบว่า

4.1 ผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียน วัดประดู่ ปีการศึกษา 2559 พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ผลการประเมินพฤติกรรมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนวัดประดู่ ปีการศึกษา 2559 พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 โรงเรียนวัดประดู่ ปีการศึกษา 2559 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ในภาพรวม เฉลี่ยร้อยละ 75.15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.4 ผลการประเมินระดับความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนวัดประดู่ ปีการศึกษา 2559 โดยภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.5 ผลการประเมินระดับความพึงพอใจของครูและผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนวัดประดู่ ปีการศึกษา 2559 โดยภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

5. ด้านข้อเสนอแนะในการประเมินโครงการ พบว่า ด้านสภาพแวดล้อม ควรชี้แจงนโยบายโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนวัดประดู่ ปีการศึกษา 2559 ให้ทุกฝ่าย ทุกคนทราบอย่างชัดเจนและทั่วถึง สำรวจความต้องการของนักเรียน และผู้ปกครองเกี่ยวกับกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน และสร้างเครือข่ายการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านกับโรงเรียนอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ด้านปัจจัยเบื้องต้น ให้โรงเรียนสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการให้มากขึ้นกว่าเดิม วางแผนเรื่องงบประมาณร่วมกัน เพื่อให้งบประมาณเพียงพอกับการดำเนินงาน ปรับปรุงห้องสมุดให้ได้มาตรฐาน และมีสื่อที่ทันสมัยเพียงพอกับจำนวนนักเรียน ด้านกระบวนการ ให้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนโดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนให้มากกว่าเดิม จัดทำเอกสารให้เพียงพอเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการและให้ความรู้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทราบขั้นตอนการดำเนินงาน และนำผลการประเมินมาปรับปรุงพัฒนาการดำเนินงานทุกครั้ง ด้านผลผลิต การประชาสัมพันธ์ผลสำเร็จของโครงการให้ชุมชนได้รับทราบด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อกระตุ้นหรือจูงใจในการสร้างนิสัยรักการอ่านของนักเรียน ครูต้องคำนึงถึงความแตกต่างของนักเรียน ให้จัดทำข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคล และศึกษาเปรียบเทียบก่อนและหลังจากการดำเนินโครงการโดยมีจุดเน้นที่ผู้เรียนเป็นสำคัญ

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้

1. จากผลการประเมินโครงการด้านสภาพแวดล้อม ที่พบว่า อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ดังนั้น โรงเรียนต้องให้ความสำคัญกับการประชุมชี้แจงให้ผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานโครงการรับรู้อย่างสม่ำเสมอ สร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินการตลอดจนจูงใจให้มุ่งมั่นที่ดำเนินงานต่อไป

2. จากผลการประเมินโครงการด้านปัจจัยเบื้องต้นที่พบว่า อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์

การประเมิน ดังนั้น โรงเรียนควรศึกษาแนวทางการดำเนินงานสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้เกี่ยวข้อง โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการดำเนินการ รวมถึงการระดมทุนให้เพียงพอต่อการดำเนินงานโครงการเพราะงบประมาณมักเป็นปัญหาอันดับต้นๆ เสมอในการดำเนินงานโครงการ แม้จะจัดสรรกันด้วยความรอบคอบเพียงใดก็ยังขาดแคลนได้เช่นกัน ดังนั้น การแสวงหารายได้เพิ่มจึงเป็นทางเลือกที่ต้องให้ความสำคัญ โดยการขอความอนุเคราะห์จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน และหน่วยงานอื่นๆ

3. จากผลการประเมินโครงการด้านกระบวนการ ที่พบว่า อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ดังนั้น การดำเนินโครงการโรงเรียนต้องจัดทำแผนให้ชัดเจน ระบุกิจกรรม เวลา แหล่งงบประมาณ ผู้รับผิดชอบ คณะกรรมการและครูทุกคนควรร่วมวิเคราะห์สภาพปัญหาร่วมวางแผน ร่วมดำเนินการ ร่วมประเมิน และปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

4. จากผลการประเมินด้านผลผลิต ที่พบว่า ผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ดังนั้น โรงเรียนควรดำเนินการต่อเนื่องและควรใช้ข้อมูลจากการสำรวจความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม ปรับปรุงพัฒนาการดำเนินงานทุกปี เพื่อให้มีประสิทธิภาพ มีผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

5. จากผลการประเมินด้านผลผลิต ที่พบว่า พฤติกรรมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก จึงควรนำกิจกรรมของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านสอดแทรกในวิถีชีวิตทั้งในและนอกห้องเรียน เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้และเรียนรู้ตลอดชีวิต

6. จากผลการประเมินด้านผลผลิต ที่พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 70 ขึ้นไป เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ดังนั้นโรงเรียนควรดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านควบคู่กับการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้นักเรียนมีความรู้คู่คุณธรรม มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ คือ เป็นคนดี คนเก่ง และคนมีความสุข

7. จากผลการประเมินด้านผลผลิต ที่พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด โรงเรียนจึงควรให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการรับรู้ ร่วมคิด ร่วมปฏิบัติ ร่วมประเมินความพึงพอใจ เพื่อปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียน

8. จากผลการประเมินด้านผลผลิต ที่พบว่า ความพึงพอใจของครู และผู้ปกครองนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โรงเรียนควรมีแผนการประชุมร่วมกัน เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ การสรุปผลการดำเนินงาน โรงเรียนต้องรายงานผลให้ชุมชน และผู้เกี่ยวข้องได้ทราบอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จะทำให้สามารถดำเนินงานได้ประสบผลสำเร็จ

ข้อเสนอแนะในการประเมินครั้งต่อไป

1. ควรมีการประเมินเกี่ยวกับรูปแบบในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเพื่อจะได้คัดสรรรูปแบบที่ใช้ในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนวัดประดู่ ได้อย่างเหมาะสมกับสภาพของโรงเรียนได้ดียิ่งขึ้นต่อไป

2. ควรมีการประเมินโครงการที่เน้นเฉพาะผลผลิตในด้านการประเมินประสิทธิผลของโครงการ (Effectiveness) และการประเมินผลกระทบของโครงการ (Impact Evaluation) เพื่อนำข้อมูลสารสนเทศไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาโครงการต่อไป

3. ควรมีการศึกษาวิจัยและพัฒนารูปแบบการดำเนินการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านที่เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนอย่างแท้จริง โดยเน้นกระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพแบบมีส่วนร่วม (Participation Action Research : PAR.)

4. ควรมีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กร เอกชน และชุมชนเพื่อระดมทรัพยากรในการดำเนินโครงการอย่างพอเพียงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านงบประมาณ ซึ่งได้รับจัดสรรในจำนวนที่ค่อนข้างจำกัดเพื่อให้การดำเนินงานครั้งต่อไปมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โพสต์โดย วัชราภรณ์ : [26 ก.พ. 2561 เวลา 12:25 น.]
อ่าน [4720] ไอพี : 125.26.108.18
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 31,171 ครั้ง
4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี
4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี

เปิดอ่าน 11,454 ครั้ง
พ่อ-แม่เลี้ยงลูกให้เก่งแบบนี้ได้อย่างไร? รายการ ดูให้รู้  ตอน "เจ้าหนูยอดมนุษย์"
พ่อ-แม่เลี้ยงลูกให้เก่งแบบนี้ได้อย่างไร? รายการ ดูให้รู้ ตอน "เจ้าหนูยอดมนุษย์"

เปิดอ่าน 23,622 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย ในศตวรรษที่ 21 ไปทางไหน
ปฏิรูปการศึกษาไทย ในศตวรรษที่ 21 ไปทางไหน

เปิดอ่าน 11,675 ครั้ง
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"

เปิดอ่าน 10,496 ครั้ง
เด็กชายใช้เงินหมดทุกสัปดาห์ พ่อสงสัยแอบตามสืบ แต่กลับพบสิ่งไม่คาดคิด
เด็กชายใช้เงินหมดทุกสัปดาห์ พ่อสงสัยแอบตามสืบ แต่กลับพบสิ่งไม่คาดคิด

เปิดอ่าน 30,089 ครั้ง
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง.. นมไหนดีกว่ากัน
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง.. นมไหนดีกว่ากัน

เปิดอ่าน 169 ครั้ง
ส่อง 5 อาชีพมาแรงในยุคดิจิทัล ที่น่าสนใจ และรายได้ดี
ส่อง 5 อาชีพมาแรงในยุคดิจิทัล ที่น่าสนใจ และรายได้ดี

เปิดอ่าน 63,833 ครั้ง
ภาษาไทย ภาษาชาติ และการสอนของครู
ภาษาไทย ภาษาชาติ และการสอนของครู

เปิดอ่าน 17,343 ครั้ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 18,079 ครั้ง
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย

เปิดอ่าน 10,549 ครั้ง
โยคะในรถยามจราจรติดขัด
โยคะในรถยามจราจรติดขัด

เปิดอ่าน 9,817 ครั้ง
ระวัง! อาหารจะทำให้คุณขาดน้ำ
ระวัง! อาหารจะทำให้คุณขาดน้ำ

เปิดอ่าน 15,634 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา พ.ศ.2560
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา พ.ศ.2560

เปิดอ่าน 11,090 ครั้ง
การหยุดหายใจในขณะหลับ (Sleep apnoea)
การหยุดหายใจในขณะหลับ (Sleep apnoea)

เปิดอ่าน 9,533 ครั้ง
ตั้งกล้องดูสุริยคราสตั้งแต่เวลา 15.50 น.-ใต้เห็นชัดสุด
ตั้งกล้องดูสุริยคราสตั้งแต่เวลา 15.50 น.-ใต้เห็นชัดสุด

เปิดอ่าน 21,735 ครั้ง
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
เปิดอ่าน 34,939 ครั้ง
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ
เปิดอ่าน 9,911 ครั้ง
เคล็ดลับการดูแลเท้า
เคล็ดลับการดูแลเท้า
เปิดอ่าน 14,585 ครั้ง
ครูใช้เวลาว่างเลี้ยงไก่งวงขายลูกค้าสั่งซื้อเพียบ เตรียมรวมกลุ่มส่งขายต่างประเทศ
ครูใช้เวลาว่างเลี้ยงไก่งวงขายลูกค้าสั่งซื้อเพียบ เตรียมรวมกลุ่มส่งขายต่างประเทศ
เปิดอ่าน 45,889 ครั้ง
ลมบกและลมทะเล
ลมบกและลมทะเล

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ