ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง

เรื่อง รายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้รายงาน นางพวงเพ็ญ แพน้อย

หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล ๒ วัดโพธิ์

ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning โดยใช้ แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการ และความสนใจของนักเรียน เนื่องจากนักเรียนได้พัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุขและส่งผลให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ จึงมีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราตัวสะกด โดยการเรียนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะเรื่อง มาตราตัวสะกด โดยการเรียนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ของโรงเรียนเทศบาล ๒ วัดโพธิ์ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลบางคล้า จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนจำนวน 22 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)

เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง มาตราตัวสะกด โดยการเรียนแบบ กลุ่มร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 แผน ที่ผู้รายงานค้นคว้าพัฒนาขึ้น แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราตัวสะกด โดยการเรียนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 เล่ม และแบบทดสอบย่อยท้ายแบบฝึกทักษะจำนวน 15 เล่ม เล่มละ 10 ข้อ ที่ผู้รายงานค้นคว้าพัฒนาขึ้น และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง มาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้รายงานค้นคว้าพัฒนาขึ้นซึ่งเป็นข้อสอบ แบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย (P) 0.29 ถึง 0.74 และค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.26 ถึง 0.69 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent Samples)

ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า

1.แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราตัวสะกด โดยการเรียนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ 86.85/88.64 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2.ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราตัวสะกด โดยการเรียนแบบกลุ่ม ร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 0.7761 หมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.61

3.ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ของแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราตัวสะกด โดยการเรียนแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถม ศึกษาปีที่ 5 ทำให้นักเรียนมีการพัฒนาความสามารถด้านการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดเพิ่มขึ้น นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะด้านการอ่าน การเขียนมาตราตัวสะกดได้ดีขึ้น สังเกตได้จากการทำกิจกรรมของนักเรียนและการตอบคำถามและโต้ตอบคำถามในชั้นเรียน ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นจากความร่วมมือของสมาชิกในกลุ่ม การปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มเป็นการช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนกลุ่มอ่อนให้สามารถอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกดได้ถูกต้อง และคะแนนทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ดีขึ้น นักเรียนมีความสุขกับการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน มีความสนุกสนานที่ลงมือช่วยทำกิจกรรม ส่วนนักเรียนกลุ่มเก่งและปานกลางเมื่อฝึกและช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่มสามารถพัฒนาการอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกดของตนเองได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน

โดยสรุปการพัฒนาและทดลองใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราตัวสะกด โดยการเรียน แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค Cooperative Learning กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทำให้นักเรียนมีการพัฒนาความสามารถด้านการอ่านและการเขียนมาตราตัวสะกดเพิ่มขึ้น นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะด้านการอ่าน การเขียนมาตราตัวสะกดได้ดีขึ้น สังเกตได้จากการทำกิจกรรมของนักเรียนและการตอบคำถามและโต้ตอบคำถามในชั้นเรียน ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นจากความร่วมมือของกลุ่มในสมาชิก การปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มเป็นการช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนกลุ่มอ่อนให้สามารถอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกดได้ถูกต้อง และคะแนนทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ดีขึ้น นักเรียนมีความสุขกับการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันมีความสนุกสนานที่ลงมือช่วยทำกิจกรรม ส่วนนักเรียนกลุ่มเก่งและปานกลางเมื่อฝึกและช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่มสามารถพัฒนาการอ่านและเขียนคำในมาตราตัวสะกดของตนเองได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน

โพสต์โดย ิbellygirl : [26 ก.พ. 2561 เวลา 05:34 น.]
อ่าน [3681] ไอพี : 223.204.240.229
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,023 ครั้ง
สร้างความรู้ใหม่ คือหัวใจปฏิรูปการศึกษา : เสรี พงศ์พิศ
สร้างความรู้ใหม่ คือหัวใจปฏิรูปการศึกษา : เสรี พงศ์พิศ

เปิดอ่าน 36,429 ครั้ง
การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์
การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 9,714 ครั้ง
ลดการสอบเพื่ออะไร ?
ลดการสอบเพื่ออะไร ?

เปิดอ่าน 9,101 ครั้ง
วิธีใช้สายตาอย่างถูกต้อง
วิธีใช้สายตาอย่างถูกต้อง

เปิดอ่าน 10,654 ครั้ง
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า

เปิดอ่าน 21,948 ครั้ง
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์

เปิดอ่าน 9,510 ครั้ง
ห้องสมุดในมัสยิด อีกย่างก้าวของความรู้
ห้องสมุดในมัสยิด อีกย่างก้าวของความรู้

เปิดอ่าน 14,804 ครั้ง
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน

เปิดอ่าน 5,912 ครั้ง
"ผักปลัง" ผักพื้นบ้าน ปลูกง่าย มีประโยชน์
"ผักปลัง" ผักพื้นบ้าน ปลูกง่าย มีประโยชน์

เปิดอ่าน 583 ครั้ง
CMS คืออะไรอ่านได้ที่นี่
CMS คืออะไรอ่านได้ที่นี่

เปิดอ่าน 13,872 ครั้ง
ชีวิตหลังเกษียณ (1)
ชีวิตหลังเกษียณ (1)

เปิดอ่าน 451,713 ครั้ง
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับสมบูรณ์(4 สี)
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับสมบูรณ์(4 สี)

เปิดอ่าน 8,604 ครั้ง
คุณธรรม จริยธรรม บทสะท้อนการศึกษาไทย จากกรณีหมอฟันหนีทุน โดย นพดล ปกรณ์นิมิตดี
คุณธรรม จริยธรรม บทสะท้อนการศึกษาไทย จากกรณีหมอฟันหนีทุน โดย นพดล ปกรณ์นิมิตดี

เปิดอ่าน 11,872 ครั้ง
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน

เปิดอ่าน 16,090 ครั้ง
เครื่องออกกำลังที่มีสายเขย่าเอว ช่วยลดพุงได้จริงหรือ?
เครื่องออกกำลังที่มีสายเขย่าเอว ช่วยลดพุงได้จริงหรือ?

เปิดอ่าน 9,732 ครั้ง
มองโลกแบบวิกรม ตอน เจาะลึก การศึกษาไต้หวัน (1)
มองโลกแบบวิกรม ตอน เจาะลึก การศึกษาไต้หวัน (1)
เปิดอ่าน 19,718 ครั้ง
สับปะรดสีปลูกไม่ยาก
สับปะรดสีปลูกไม่ยาก
เปิดอ่าน 35,661 ครั้ง
กำจัด "กลิ่นปาก" ให้สิ้นซาก
กำจัด "กลิ่นปาก" ให้สิ้นซาก
เปิดอ่าน 9,831 ครั้ง
10 วิธีถนอมสายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์
10 วิธีถนอมสายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์
เปิดอ่าน 38,676 ครั้ง
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ