ชื่อผลงาน การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง ร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมี
เศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
โรงเรียนบ้านยะหา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๒
ผู้ศึกษา นางอินฑุกานต์ มณีรัตน์
บทคัดย่อ
ผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง ร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ มีวัตถุประสงค์คือ ๑) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง ร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านยะหา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง ร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านยะหา ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่องร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านยะหา ประชากรที่ใช้ศึกษาในครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านยะหา จังหวัดยะลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๒ ในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ จำนวน ๓๕ คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ๑) แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่องร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๓ เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๑๗ แผน ๑๘ ชั่วโมง ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน ๓๐ ข้อ ๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง ร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๑๐ ข้อ ดำเนินการศึกษาในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ ในระหว่างวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๐
ผลการศึกษาพบว่า
๑) ค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง ร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจ
พอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านยะหา ปีการศึกษา ๒๕๕๘ มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๒.๘๗/๙๐.๗๔ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ที่กำหนดไว้
๒) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง ร้อยกรอง
กวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๑๒.๘ คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๖๖ ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๒๕.๗๗ คิดเป็นร้อยละ ๘๕.๕๒ โดยมีค่าพัฒนาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเฉลี่ย ๑๒.๙๗ คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๔๒
๓) นักเรียนมีความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง ร้อยกรองกวี
ตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โดยภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๑ คิดเป็นร้อยละ ๙๐.๒๘ และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่ารายการครูจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา และนักเรียนมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น มีระดับความพึงพอใจเท่ากันคือมีความพึงพอใจสูงสุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๖๘ คิดเป็นร้อยละ ๙๓.๗๑ อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด และรายการครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนมีส่วนร่วม และนักเรียนได้ทำแบบฝึกเสริมทักษะด้วยตนเองมีระดับความพึงพอเท่ากันคือมีความพึงพอใจมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๔ คิดเป็น ร้อยละ ๘๖.๘๕ อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
ข้อเสนอแนะ
ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ควรนำแนวทางที่เป็นผลที่ได้จากการศึกษาการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง ร้อยกรองกวีตามรอยพระภูมีเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ครั้งนี้เป็นฐานข้อมูลสำหรับการพัฒนาสื่อการสอน นวัตกรรมการสอนและวิธีการสอน อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอุปสรรคสำคัญของการเรียนรู้วิชาภาษาไทยของนักเรียนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป