ชื่อเรื่อง : การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D)
เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ชื่อผู้วิจัย : นางจิตรา คำบาล
หน่วยงาน : โรงเรียนศรีแก้วพิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่วิจัย : ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาชุดกิจกรรม การเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรม การเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวโดยใช้รูปแบบการสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) เพื่อประเมินผลชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
การดำเนินการวิจัยมี 4 ขั้นตอน คือ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน 2) การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) การศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และ 4) ประเมินผลชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 33 คน ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1/2 จำนวน 32 คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 จำนวน 28 คน จำนวน 3 ห้องเรียน รวม 93 คน โรงเรียนศรีแก้วพิทยา อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนศรีแก้วพิทยา อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 32 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม แล้วจับสลากมา 1 ห้องเรียนทดลองใช้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ระยะเวลาที่ใช้ จำนวนรวม 19 ชั่วโมง รวมการปฐมนิเทศ การทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แบบแผนการทดลอง คือ One Group Pretest-Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์ 2) แบบสอบถาม 3) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 4) แผนการจัดการเรียนรู้ 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 6) แบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และ 7) แบบประเมินความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าที (t-test dependent samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ครูและผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อเสนอแนะ คือ 1) ด้านเนื้อหาเป็นเนื้อหาที่นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในโรงเรียนและท้องถิ่นของนักเรียนได้ทุกเรื่อง 2) เนื้อหาที่เรียนสามารถนำไปใช้กับตนเองและกับครอบครัว ชุมชนและควรเป็นส่วนหนึ่งของการนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ เช่น นำปัญญา พัฒนาการคิดในการแก้โจทย์ปัญหา 3) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ควรมีสื่อที่หลากหลาย ที่ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และต้องเป็นสื่อที่น่าสนใจ ถ้าเป็นใบความรู้ควรมีภาพประกอบที่เร้าใจ 4) ด้านสื่อการเรียนควรใช้สื่อที่ช่วยให้เกิดความเข้าใจ ได้ง่าย และใช้วัสดุอุปกรณ์และเอกสารที่หาได้ในท้องถิ่น 5) กิจกรรมการเรียนการสอน ควรให้นักเรียนได้ใช้สื่อทุกอย่างในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ อย่างทั่วถึง โดยครูต้องคอยดูแลและให้คำแนะนำการใช้อุปกรณ์ที่นักเรียนไม่คุ้นเคย และ 6) ควรบูรณาการเรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ให้เข้ากับวิชาอื่นๆ นอกจากนั้นนักเรียน ส่วนใหญ่ได้เสนอแนะการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยให้นักเรียนได้เน้นการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ด้านเนื้อหา เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ควรเป็นเนื้อหาที่สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
2. ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 มีผลการประเมินประสิทธิภาพด้านกระบวนการ (E1)ได้ค่าประสิทธิภาพ 78.85 และผลการประเมินประสิทธิภาพด้านผลลัพธ์ (E2) ได้ค่าประสิทธิภาพ 77.27 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ที่กำหนดไว้คือ 75/75 แสดงว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นี้สามารถนำไปใช้สอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1พบว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ผลการประเมินผลชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โดยการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่ามีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในระดับมากที่สุด นักเรียนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นสอดคล้อง กันว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้และพัฒนา (5Es+D) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหามากขึ้น มีความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เพิ่มมากขึ้น