บทคัดย่อ
การพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้วยเทคนิคการคิดแบบหมวก 6 ใบและแผนผังความคิดให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาค่าดัชนีผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยเทคนิคการคิดแบบหมวก 6 ใบและแผนผังความคิด 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วิชาประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน โดยใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคการคิดแบบหมวก 6 ใบและแผนผังความคิด 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค
การคิดแบบหมวก 6 ใบและแผนผังความคิด กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๑ (ถนนภูผาภักดี) สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2560 จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แผนการจัดการเรียนรู้
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ t-test (Dependent)
ผลการพัฒนาพบว่า
1. การจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้วยเทคนิค
การคิดแบบหมวก 6 ใบและแผนผังความคิด มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.90/87.59
ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ร้อยละ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 ด้วยเทคนิคการคิดแบบหมวก 6 ใบและแผนผังความคิด เท่ากับ 0.73 แสดงว่าผู้เรียน
มีความก้าวหน้าในการเรียน คิดเป็นร้อยละ 73.00
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรียนวิชาประวัติศาสตร์ ด้วยเทคนิคการคิดแบบ
หมวก 6 ใบและแผนผังความคิด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ ด้วยเทคนิคการคิดแบบหมวก 6 ใบและแผนผังความคิด โดยรวมอยู่ ในระดับมาก
( = 4.48 ; S.D. = 0.90)