ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ
(Cooperative learning) เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 1
(วัดเจียงอี)
ผู้วิจัย นางสวลักษณ์ พันธ์จรูญศักดิ์
ปีที่วิจัย 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้
แบบร่วมมือ (Cooperative learning) เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative learning) เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ
3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative learning) เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) ที่มีกลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มเดียวและมีการทดสอบก่อนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนเทศบาล 1 (วัดเจียงอี) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองศรีสะเกษ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวนนักเรียน 38 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
1) แบบฝึกทักษะ เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 13 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative learning) ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถาม
ความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 10 ข้อ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (P) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และการทดสอบค่า t - test แบบ Dependent samples
ผลการวิจัย พบว่า
1. แบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative learning)
เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.49/84.91 ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 1 (วัดเจียงอี) ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative learning) เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า
ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 1 (วัดเจียงอี) มีความพึงพอใจ
ต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะประกอบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative learning)
เรื่อง ประวัติศาสตร์น่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อยู่ในระดับพึงพอใจมาก ( = 2.70, S.D. = 0.52)