ชื่อเรื่อง : รายงานการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของชั้นอนุบาลปีที่ 1
ผู้รายงาน : นางยุพิน ผลไม้
ปีการศึกษา : 2559
บทคัดย่อ
รายงานการใช้ ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 1) เพื่อศึกษาความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของชั้นอนุบาลปีที่ 1 โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของชั้นอนุบาลปีที่ 1 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลชั้นอนุบาลปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของชั้นอนุบาลปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 1/4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนชุมชนบ้านพบพระ ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตาก เขต 2 ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive selection) จำนวน 22 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของชั้นอนุบาลปีที่ 1 2) แผนการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของชั้นอนุบาลปีที่ 1 3) แบบประเมินวัดความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของชั้นอนุบาลปีที่ 1 ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และทดสอบค่าที (t test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. จากการศึกษาความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของชั้นอนุบาลปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์ โดยรวม อยู่ในระดับดี โดยเรียงลำดับจากด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยมากไปหาน้อยคือ ความถูกต้อง อยู่ในระดับดี การให้เหตุผล อยู่ในระดับดี และการสังเกต อยู่ในระดับดี ตามลำดับ
2. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของอนุบาลปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์ พบว่า เด็กส่วนใหญ่มีคะแนนความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์ มากขึ้น โดยมีผลต่างของคะแนนมากที่สุด คือ 23 คะแนน เด็กมีคะแนนประเมินความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของชั้นอนุบาลปีที่1 ก่อนการจัดประสบการณ์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 11.32 คะแนนและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.33 คิดเป็นร้อยละ 37.72 ส่วนคะแนนการประเมินหลังการจัดประสบการณ์ มีค่าเฉลี่ย 27.77 คะแนนและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.48 คิดเป็นร้อยละ 92.57
ผลการประเมินความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลก่อน และหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์ โดยรวม
พบว่า ก่อนการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์ โดยรวมอยู่ในระดับพอใช้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดยเรียงลำดับจากด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยมากไปหาน้อย คือ การสังเกต อยู่ในระดับปานกลาง รองลงมาคือ ความถูกต้อง อยู่ในระดับปานกลาง และการให้เหตุผล อยู่ในระดับพอใช้ ตามลำดับ
หลังการจัดจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์ โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดยเรียงลำดับจากด้านที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยมากไปหาน้อย คือ การสังเกต อยู่ในระดับดีมาก รองลงมาคือ ความถูกต้อง อยู่ในระดับดีมาก และการให้เหตุผล อยู่ในระดับดีมาก ตามลำดับ
การสังเกต ก่อนการจัดประสบการณ์ อยู่ในระดับ ปานกลาง และหลังการจัดประสบการณ์ อยู่ในระดับดีมาก และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการจัดประสบการณ์ เท่ากับ 0.49 และหลังการจัดประสบการณ์เท่ากับ 0.21
ความถูกต้อง ก่อนการจัดประสบการณ์ อยู่ในระดับ ปานกลาง และหลังการจัดประสบการณ์ อยู่ในระดับดีมาก และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการจัดประสบการณ์ เท่ากับ 0.49 และหลังการจัดประสบการณ์เท่ากับ 0.24
การให้เหตุผล ก่อนการจัดประสบการณ์ อยู่ในระดับ พอใช้ และหลังการจัดประสบการณ์ อยู่ในระดับดีมาก และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนการจัดประสบการณ์ เท่ากับ 0.46 และหลังการจัดประสบการณ์เท่ากับ 0.30
ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของอนุบาลปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์ โดยใช้ t-test (Dependent Samples)
ความสามารถในการคิดเชิงเหตุผลของชั้นอนุบาลปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษามิติสัมพันธ์ มีคะแนนเท่ากับ 11..32 คะแนน และ 27.77 คะแนน ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกกรม พบว่า คะแนนสอบหลังการจัดประสบการณ์ของเด็กสูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่า t เท่ากับ 22.04