ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา)
ผู้วิจัย นางสาวสมเพียง ครัวกระโทก
ปีที่วิจัย 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตน
เป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา) ก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา) ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) ใช้กลุ่มทดลอง
แบบกลุ่มเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองศรีสะเกษ จำนวน 8 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 14 เล่ม 2) คู่มือการจัดการเรียนรู้ ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตน
เป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตน
เป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ข้อ
การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยทำการวิเคราะห์โดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2)
ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 86.20/84.17 ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา) ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.5422
แสดงว่า การเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ทำให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา) มีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 54.22
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา)
ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีความพึงพอใจต่อการเรียนอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = 0.67)