ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยเ

ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะพัฒนาทักษะการใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ด้วยเทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อทดสอบว่าระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ ช่วยให้การเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ สนุกสนาน และน่าสนใจมากขึ้น ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น

วัตถุประสงค์

1. เพื่อพัฒนาทักษะการใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ด้วยเทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน

2. เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมที่ดีให้กับนักเรียน

สมมติฐานการวิจัย

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง Microsoft Powerpoint เบื้องต้น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่การจัดการเรียนรู้โดยเทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

ขอบเขตของการวิจัย

1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านคลองกระทุ่มแบนที่เรียนวิชาคอมพิวเตอร์ จำนวน 62 คน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ สุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้วิธีจับฉลากจัดเป็นกลุ่มทดลอง 1 ห้องเรียน คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 34 คน

2. ระยะเวลาดำเนินการ พฤศจิกายน 2560-กุมภาพันธ์ 2561

3. ตัวแปรที่ศึกษา

แปรต้น เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง Microsoft Powerpoint เบื้องต้น ตัวแปรตาม ทักษะการใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์พาวเวอร์พอยต์ ของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านคลองกระทุ่มแบน (บุญเพ็งอุทิศ)

4. เนื้อหาที่ใช้ เนื้อหาที่ใช้วิจัยครั้งนี้เป็นเนื้อหารายวิชาเพิ่มเติม (คอมพิวเตอร์)

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง Microsoft Powerpoint เบื้องต้น

ผลการวิจัยพบว่าคะแนนเฉลี่ยของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่าง

ด้วยเทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 5.53 และ 9.92 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยโดยใช้สถิติทดสอบ t-test dependent พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่านักเรียนกลุ่มทดลองมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง Microsoft Powerpoint หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

สรุปผลการดำเนินงาน

สรุปผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง Microsoft Powerpoint เบื้องต้น มีการส่งเสริมให้นักเรียนได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนร่วมชั้นเรียน

อันส่งผลต่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ โดยสรุปเป็นร้อยละได้ดังนี้ คะแนนจากแบบทดสอบหลังเรียนเพิ่มขึ้น โดยมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 92.94

ข้อเสนอแนะ

1. ควรมีการติดตามผล และประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในระยะยาว

2. สามารถนำผลการวิจัยไปพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับรายวิชาอื่น ๆ ต่อไป

โพสต์โดย Kru.Golffy : [8 ก.พ. 2561 เวลา 19:33 น.]
อ่าน [5257] ไอพี : 115.87.59.232
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,087 ครั้ง
พระลักษมี
พระลักษมี

เปิดอ่าน 15,071 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการประชุมชี้แจง เรื่องแนวทางการปรับเงินเดือน ขรก.ที่ปรับใหม่
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการประชุมชี้แจง เรื่องแนวทางการปรับเงินเดือน ขรก.ที่ปรับใหม่

เปิดอ่าน 112,438 ครั้ง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐

เปิดอ่าน 24,789 ครั้ง
นางสงกรานต์ปี 2556 นามว่า "มโหธรเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว มีนกยูงเป็นพาหนะ
นางสงกรานต์ปี 2556 นามว่า "มโหธรเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว มีนกยูงเป็นพาหนะ

เปิดอ่าน 12,219 ครั้ง
เยือน "ศูนย์จราจรอัจฉริยะไทย" ที่ บก.02
เยือน "ศูนย์จราจรอัจฉริยะไทย" ที่ บก.02

เปิดอ่าน 19,209 ครั้ง
เรื่องของ "ชะอม"
เรื่องของ "ชะอม"

เปิดอ่าน 16,214 ครั้ง
ปลูกผักหวานป่าในพื้นที่ราบ
ปลูกผักหวานป่าในพื้นที่ราบ

เปิดอ่าน 24,527 ครั้ง
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน

เปิดอ่าน 19,994 ครั้ง
ประวัติศาสตร์ของ ¶
ประวัติศาสตร์ของ ¶

เปิดอ่าน 20,350 ครั้ง
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"

เปิดอ่าน 17,828 ครั้ง
วัยไหนให้ดูทีวี
วัยไหนให้ดูทีวี

เปิดอ่าน 14,887 ครั้ง
เมื่อ "ลาวา" ปะทะ "น้ำแข็ง" ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ไปชมคลิปกัน
เมื่อ "ลาวา" ปะทะ "น้ำแข็ง" ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ไปชมคลิปกัน

เปิดอ่าน 2,528 ครั้ง
ลมบกและลมทะเล
ลมบกและลมทะเล

เปิดอ่าน 12,300 ครั้ง
ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เป็นเบาหวาน กินอย่างไรดี
ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เป็นเบาหวาน กินอย่างไรดี

เปิดอ่าน 7,111 ครั้ง
เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที
เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที

เปิดอ่าน 334 ครั้ง
กรมอนามัย ย้ำ องุ่นไชน์มัสแคทยังคงปลอดภัย แนะเลือกกินผลไม้หลากหลายตามฤดูกาล ล้างผัก ผลไม้ตามคำแนะนำ มั่นใจทุกคำ ลดเสี่ยงสารพิษ
กรมอนามัย ย้ำ องุ่นไชน์มัสแคทยังคงปลอดภัย แนะเลือกกินผลไม้หลากหลายตามฤดูกาล ล้างผัก ผลไม้ตามคำแนะนำ มั่นใจทุกคำ ลดเสี่ยงสารพิษ
เปิดอ่าน 4,731 ครั้ง
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เปิดอ่าน 9,258 ครั้ง
พบกล้องโทรทรรศน์
พบกล้องโทรทรรศน์'ไอสไตน์'ที่หายสาบสูญไปนาน
เปิดอ่าน 29,974 ครั้ง
"บึงกาฬ" จังหวัดที่ 77 ของไทย
"บึงกาฬ" จังหวัดที่ 77 ของไทย
เปิดอ่าน 19,092 ครั้ง
คู่มือการอุทธรณ์และการร้องทุกข์และแนววินิจฉัยของ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญสำหรับครู
คู่มือการอุทธรณ์และการร้องทุกข์และแนววินิจฉัยของ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญสำหรับครู

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ