การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน
ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ ตัวเราและสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล .05 ขึ้นไป
(2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยเอกสารประกอบการเรียน
ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ ตัวเราและสิ่งแวดล้อมรอบตัว (3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยเอกสารประกอบการเรียนตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ ตัวเราและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านซับชมภู สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3 จำนวน 12 คน ที่ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ดำเนินการศึกษาโดยใช้แผนการศึกษาแบบ One Group Pretest-Posttest Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test แบบ Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า (1) การจัดการเรียนรู้ด้วยเอกสารประกอบการเรียนตามกระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ ตัวเราและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 93.52/94.72 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.9222 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนและหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ ตัวเราและสิ่งแวดล้อมรอบตัว มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ(3) ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยเอกสารประกอบการเรียนตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ ตัวเราและสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยรวมเฉลี่ยเท่ากับ 4.77 หมายความว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด