ชื่อเรื่อง รายงานการศึกษาเรื่องการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง
ผู้ศึกษา นางเอมอร กุลบุญ
ปีที่ทำการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึก เสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน จุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษวิชาการ 2 อ30205 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/1 ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 13 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านภาษาอังกฤษ จำนวน 30 ข้อ แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 7 แผน และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ทดสอบความแตกต่างโดยค่า t-test และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.06/82.89 แสดงว่าแบบฝึกที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์
ผลสัมฤทธิ์ในการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
นักเรียนมีระดับความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก แสดงว่านักเรียนมีความพึงพอใจมากต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านโดยมีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยรวม 4.49
Em-Orn Kulbul. (2017). The Study of Using Workbooks to Develop Reading Ability of Mattayomsuksa 6 Students at Princess Chulabhorn Science High School Trang.
ABSTRACT
The purposes of this study were: 1) To develop 6 workbooks for Mattayomsuksa 6 students that met the 80/80 criteria. 2) To study the learning achievement of the students learning from the 6 workbooks. 3) To evaluate student satisfaction towards learning from the 6 workbooks.
The samples in this study were 24 Mattayomsuksa 6/1 students of the first semester academic year 2017 at Princess Chulabhorn Science High School Trang Muang District, Trang. Simple Random Sampling was used as a tool for research population screening. The experiment was conducted in 10 weeks, two periods per week, consisting a total of 21 periods.
Research tools comprised of: 1) 6 workbooks 2) 30 pre and post test questions of students reading achievement test 3) 7 lesson plans based on the Communicative Teaching Approach Method. 4) A satisfaction questionnaire for students using the 6 workbooks. After the post test was administered, the t test for dependent samples, the percentage, mean and standard deviation were used for statistical analysis.
Research findings show:
1. The efficiency of the 6 workbooks for Mattayomsuksa 6 students met the 80/80 criteria.
2. The achievement scores of students after learning from the 6 workbooks were significantly higher than before the experiment at 0.01 level.
3. The student satisfaction towards learning from the 6 workbooks was at the rate of 4.49 (high rate satisfaction)
It was concluded that using the 6 workbooks helped to develop students English reading abilities, efficiently while maintaining a high rate of student satisfaction.