ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เรื่อง พหุนาม และเศษส่วนของพหุนาม ชั

ภาวินี ศรีพูน. (2561). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เรื่อง พหุนาม และเศษส่วนของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเทคนิค STAD. โรงเรียนบัวใหญ่ : นครราชสีมา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3

เรื่อง พหุนามและเศษส่วนของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เรื่อง พหุนามและเศษส่วนของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเทคนิค STAD โดยผู้เรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของผู้เรียนทั้งหมดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 75 ขึ้นไป และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เรื่อง พหุนามและเศษส่วนของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเทคนิค STAD

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/3 โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอ บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 36 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติการ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เรื่อง พหุนามและเศษส่วนของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเทคนิค STAD จำนวน 12 แผน 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติการ ได้แก่ แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการสอนของผู้วิจัย แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน แบบบันทึกผลหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้และแบบทดสอบย่อยท้ายวงจรปฏิบัติการ และ 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 รหัสวิชา ค20203 เรื่อง พหุนามและเศษส่วนของพหุนาม จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เรื่อง พหุนามและเศษส่วนของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเทคนิค STAD จำนวน 20 ข้อ รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวงจรปฏิบัติการ 3 วงจร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละและสรุปความเรียง

ผลการวิจัย พบว่า

1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เรื่อง พหุนามและเศษส่วน

ของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเทคนิค STAD เป็นรูปแบบการสอนที่ดีมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง โดยมีขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การนำเสนอบทเรียนต่อทั้งชั้น เป็นการแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และทบทวนความรู้เดิม โดยการซักถาม การสนทนา และนำเสนอเนื้อหาใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมและเร้าความสนใจของผู้เรียนให้พร้อมที่จะเรียนเรื่องใหม่ 2) ขั้นการศึกษากลุ่มย่อย เป็นการให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละประมาณ 4 - 5 คน ประกอบด้วย ผู้เรียนที่เรียนเก่ง ผู้เรียนที่เรียนปานกลาง และผู้เรียนที่เรียนอ่อน โดยให้แต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้จากแบบฝึกทักษะ แล้วอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่มอย่างสร้างสรรค์ โดยผู้วิจัยคอยสังเกตให้คำแนะนำและปรึกษาอย่างใกล้ชิด จากนั้นจึงสรุปเนื้อหาสาระที่ได้จากการศึกษาและการอภิปรายภายในกลุ่ม โดยเป็นการสรุปร่วมกันระหว่างผู้วิจัยกับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ชัดเจนและเกิดความคิดรวบยอดในเรื่องที่เรียนมากขึ้น 3) ขั้นการทดสอบย่อย หลังสิ้นสุดการเรียนในแต่ละวงจรปฏิบัติการ ผู้เรียนทำแบบทดสอบย่อยท้ายวงจรปฏิบัติการ โดยต่างคนต่างทำ ไม่มีการช่วยเหลือกัน 4) ขั้นการคิดคะแนนความก้าวหน้า เป็นการหาผลต่างระหว่างคะแนนฐานกับคะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบย่อยท้ายวงจรปฏิบัติการ เพื่อหาคะแนนความก้าวหน้าของกลุ่ม

และ 5) ขั้นการคิดคะแนนกลุ่มที่ได้รับการยกย่อง เป็นการนำคะแนนความก้าวหน้าของกลุ่มมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แล้วทำการจัดลำดับของกลุ่มเพื่อรับรางวัลเป็นกลุ่มเก่ง กลุ่มเก่งมาก และกลุ่มยอดเยี่ยมยกย่องชื่นชมกลุ่มที่ประสบผลสำเร็จและมอบรางวัลตามที่ตกลงกันไว้ให้กับกลุ่มที่ประสบผลสำเร็จ มีคะแนนจากการทดสอบย่อยท้ายวงจรปฏิบัติการที่ 1 , 2 และ 3 คิดเป็นร้อยละ 76.10 , 77.60 และ 83.90 ตามลำดับ และในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ผู้เรียนได้รับพัฒนาการผ่านรูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้เทคนิค STAD ทำให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความสามัคคี ความรับผิดชอบ กล้าแสดงออกและมีความมั่นใจในตนเอง

2. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เรื่อง พหุนามและเศษส่วนของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเทคนิค STAD มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ย 80.56 และมีจำนวนผู้เรียนร้อยละ 83.33 ของผู้เรียนทั้งหมดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 75 ขึ้นไป

3. การศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 เรื่อง พหุนามและเศษส่วนของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับเทคนิค STAD อยู่ในระดับมาก ("σ" = 4.48)

โพสต์โดย oil : [18 ม.ค. 2561 เวลา 12:49 น.]
อ่าน [5539] ไอพี : 101.51.34.252
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,713 ครั้ง
น้ำขิงมะนาว สูตรนี้ได้คุณค่าจากสมุนไพรคูณสอง !
น้ำขิงมะนาว สูตรนี้ได้คุณค่าจากสมุนไพรคูณสอง !

เปิดอ่าน 52,913 ครั้ง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง

เปิดอ่าน 35,851 ครั้ง
การทักทาย วิธีเรียงประโยค(ภาษาจีน)
การทักทาย วิธีเรียงประโยค(ภาษาจีน)

เปิดอ่าน 177,008 ครั้ง
ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล
ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล

เปิดอ่าน 10,022 ครั้ง
คนนอนกรนไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจไม่เกี่ยวพันกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
คนนอนกรนไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจไม่เกี่ยวพันกับโรคหัวใจและหลอดเลือด

เปิดอ่าน 22,636 ครั้ง
16 ของมงคล แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย!!
16 ของมงคล แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย!!

เปิดอ่าน 13,869 ครั้ง
สีสันกับสุขภาพจิต
สีสันกับสุขภาพจิต

เปิดอ่าน 16,356 ครั้ง
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์

เปิดอ่าน 304,565 ครั้ง
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ 30 ประโยคคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ 30 ประโยคคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 18,697 ครั้ง
กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน
กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน

เปิดอ่าน 12,815 ครั้ง
ผักสีสดช่วยคุณฟิตได้
ผักสีสดช่วยคุณฟิตได้

เปิดอ่าน 51,932 ครั้ง
10 อันดับของผลไม้ที่มี "วิตามินอี" สูง
10 อันดับของผลไม้ที่มี "วิตามินอี" สูง

เปิดอ่าน 4,467 ครั้ง
ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT
ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT

เปิดอ่าน 10,929 ครั้ง
กำจัดเซลลูไลท์ กำจัดผิวเปลือกส้ม
กำจัดเซลลูไลท์ กำจัดผิวเปลือกส้ม

เปิดอ่าน 25,624 ครั้ง
ดวงการเงิน 2558 ดูดวงการเงินปี 2558
ดวงการเงิน 2558 ดูดวงการเงินปี 2558

เปิดอ่าน 207,739 ครั้ง
บทบาทของครู
บทบาทของครู
เปิดอ่าน 78,154 ครั้ง
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คืออะไรและสำคัญตรงไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คืออะไรและสำคัญตรงไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
เปิดอ่าน 13,269 ครั้ง
12 เคล็ดลับที่ช่วยให้หนุ่ม ๆ ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
12 เคล็ดลับที่ช่วยให้หนุ่ม ๆ ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
เปิดอ่าน 20,864 ครั้ง
7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง
7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง
เปิดอ่าน 15,657 ครั้ง
แชร์ว่อนเน็ต ตำรวจจับมอเตอร์ไซค์ วิ่งเลนขวาผิดหรือ
แชร์ว่อนเน็ต ตำรวจจับมอเตอร์ไซค์ วิ่งเลนขวาผิดหรือ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ