ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาสมรรถนะสำคัญ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้การจัดการเร

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลสภาพปัญหาในการพัฒนาสมรรถนะสำคัญ และ

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) 4) ประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) กลุ่มประชากรที่ใช้คือครูจำนวน 5 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) จำนวน 172 คน เครื่องมือที่ใช้คือ 1) แบบประเมินสภาพสมรรถนะสำคัญของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ของสำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) 3) รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงาน ตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อพัฒนาสมรรถนะสำคัญและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) 4) แบบประเมินความพึงพอใจของของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงาน ตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เพื่อพัฒนาสมรรถนะสำคัญและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์ผลการประชุมกลุ่มย่อยของคณะผู้ร่วมวิจัย

ผลการวิจัย พบว่า

1. สภาพปัญหาในการพัฒนาสมรรถนะสำคัญ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) พบว่า

1.1 สภาพสมรรถนะสำคัญของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) โดยรวมอยู่ในระดับปรับปรุง

1.2. สภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) โดยรวมอยู่ในระดับพอใช้

2. การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9

(วัดโพธิสัมพันธ์) ผลการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมาก

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) พบว่า

3. 1 ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) พบว่า ค่าเฉลี่ยสมรรถนะสำคัญของนักเรียน โดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก ซึ่งสูงขึ้นกว่าก่อนการพัฒนา

3.2 ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) พบว่า ค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยรวม อยู่ในระดับมาก ซึ่งสูงขึ้นกว่าก่อนการพัฒนา

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย นววรรณ โพธิศรี : [14 ม.ค. 2561 เวลา 11:26 น.]
อ่าน [5178] ไอพี : 14.207.18.81
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 35,441 ครั้ง
ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงาน วิจัยและพัฒนา พ.ศ. 2552
ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงาน วิจัยและพัฒนา พ.ศ. 2552

เปิดอ่าน 16,510 ครั้ง
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เปิดอ่าน 16,654 ครั้ง
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?

เปิดอ่าน 13,562 ครั้ง
อยากหน้าเด็ก สดใส! สธ.ชวนนั่ง"สมาธิ" ยาอายุวัฒนะสุขภาพกายและใจ
อยากหน้าเด็ก สดใส! สธ.ชวนนั่ง"สมาธิ" ยาอายุวัฒนะสุขภาพกายและใจ

เปิดอ่าน 42,825 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 10 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและอยู่นอกการเล่น

เปิดอ่าน 10,639 ครั้ง
สงสัยกินเต้าหู้ทำสมองคนแก่เสื่อม พบมากในผู้สูง อายุวัยเหยียบ 70
สงสัยกินเต้าหู้ทำสมองคนแก่เสื่อม พบมากในผู้สูง อายุวัยเหยียบ 70

เปิดอ่าน 17,776 ครั้ง
ฮือฮา! คลิปโพสต์ทั่วเฟซบุ๊ก "พระ" สวดมนต์จังหวะเพลงแร็พ-ร็อก งานขึ้นบ้านใหม่!
ฮือฮา! คลิปโพสต์ทั่วเฟซบุ๊ก "พระ" สวดมนต์จังหวะเพลงแร็พ-ร็อก งานขึ้นบ้านใหม่!

เปิดอ่าน 9,990 ครั้ง
มท.ค้านกำนัน-ผญบ.นั่งเก้าอี้ อปท. โดยตำแหน่ง-ไม่เอาประเมินผลทุกปี
มท.ค้านกำนัน-ผญบ.นั่งเก้าอี้ อปท. โดยตำแหน่ง-ไม่เอาประเมินผลทุกปี

เปิดอ่าน 12,138 ครั้ง
35 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ ของคนวัย 35 ที่น่าเลียนแบบ
35 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ ของคนวัย 35 ที่น่าเลียนแบบ

เปิดอ่าน 28,676 ครั้ง
หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในสถานพยาบาลของเอกชน ว 333
หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในสถานพยาบาลของเอกชน ว 333

เปิดอ่าน 11,151 ครั้ง
ตัวอย่างหนังสือค้ำประกันและแนวทางวิธีปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ตัวอย่างหนังสือค้ำประกันและแนวทางวิธีปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

เปิดอ่าน 35,658 ครั้ง
แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ
แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ

เปิดอ่าน 10,454 ครั้ง
คุณสมบัติของคนที่ประสบความสำเร็จ (1)
คุณสมบัติของคนที่ประสบความสำเร็จ (1)

เปิดอ่าน 18,765 ครั้ง
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่

เปิดอ่าน 51,238 ครั้ง
ประโยชน์ "คาเฟอีน" ในกาแฟ
ประโยชน์ "คาเฟอีน" ในกาแฟ

เปิดอ่าน 10,727 ครั้ง
สูตรสำเร็จเพิ่มความฉลาด
สูตรสำเร็จเพิ่มความฉลาด
เปิดอ่าน 11,089 ครั้ง
รับมือปัญหาการนอน
รับมือปัญหาการนอน
เปิดอ่าน 14,103 ครั้ง
การทำบุญสะเดาะเคราะห์
การทำบุญสะเดาะเคราะห์
เปิดอ่าน 26,884 ครั้ง
Youtube เผย 10 อันดับคลิปที่มีผู้เข้าชมมากสุดปี 2011
Youtube เผย 10 อันดับคลิปที่มีผู้เข้าชมมากสุดปี 2011
เปิดอ่าน 14,238 ครั้ง
คนหัวล้านเฮ!นวัตกรรมเจ๋งผมงอกภายใน60วินาที(ชมคลิป)
คนหัวล้านเฮ!นวัตกรรมเจ๋งผมงอกภายใน60วินาที(ชมคลิป)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ