ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านทุ่ม(อ.ส.พ.ป.3) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ศรีสะเกษ เขต 3 ปีการศึกษา 2559
ชื่อผู้ประเมิน นายศรีสุวัล พัณษะธรรมวงษ์
ปีที่ประเมิน ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การรายงานการประเมินโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทุ่ม(อ.ส.พ.ป.3) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2559 ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) ประเมินโครงการด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรครูผู้ปกครองนักเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 63 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินเป็นแบบสอบถามเชิงสำรวจ จำนวน 50 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น 0.806 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) กรณีกลุ่มตัวอย่างเป็นอิสระต่อกันและการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA)
ผลการประเมินข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 63 คน เป็นเพศชาย จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 38.1 เพศหญิง จำนวน 39 คน คิดเป็น ร้อยละ 61.9 เป็นบุคลากรครู จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 7.9 ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 81.0 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 11.1 วุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี จำนวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 85.7 ปริญญาตรี จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 9.5 และสูงกว่าปริญญาตรี จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 4.8
ผลการประเมินการดำเนินงานโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทุ่ม(อ.ส.พ.ป.3) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ปีการศึกษา 2559 พบว่า ระดับความคิดเห็นด้านบริบทอยู่ในระดับมาก (x̄= 4.21 , S.D. = 0.12) ด้านปัจจัยนำเข้าอยู่ในระดับมาก (x̄= 4.20 , S.D. = 0.15) ด้านกระบวนการอยู่ในระดับมาก (x̄= 4.23 , S.D. = 0.11) และด้านผลผลิตอยู่ในระดับมาก (x̄= 3.63 , S.D. = 0.23)
ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นที่มีต่อโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทุ่ม(อ.ส.พ.ป.3) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ปีการศึกษา 2559 ภาพรวมรายด้านเมื่อจำแนกตามเพศ พบว่า เพศชายและเพศหญิงมีความคิดเห็นต่อโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทุ่ม(อ.ส.พ.ป.3) ไม่แตกต่างกัน
ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทุ่ม (อ.ส.พ.ป.3) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ปีการศึกษา 2559 ด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต เมื่อจำแนกตามสถานภาพ พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีสถานภาพต่างกันมีความคิดเห็นต่อโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทุ่ม(อ.ส.พ.ป.3) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ไม่แตกต่างกันจำนวน 2 ด้าน คือ ด้านบริบทและด้านปัจจัยนำเข้าและพบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำนวน 2 ด้าน คือ ด้านกระบวนการและด้านผลผลิต
เมื่อพบความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่าง จึงทำการวิเคราะห์ความแตกต่างเป็นรายคู่โดยวิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe Method) พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นบุคลากรครูและกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นต่อโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โรงเรียน บ้านทุ่ม(อ.ส.พ.ป.3) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ปีการศึกษา 2559 ในด้านกระบวนการและด้านผลผลิต แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทุ่ม (อ.ส.พ.ป.3) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ปีการศึกษา 2559 ด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต เมื่อจำแนกตามวุฒิการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีวุฒิการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทุ่ม(อ.ส.พ.ป.3) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ไม่แตกต่างกันจำนวน 2 ด้าน คือ ด้านบริบทและด้านปัจจัยนำเข้า และพบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำนวน 2 ด้าน คือ ด้านกระบวนการและด้านผลผลิต
เมื่อพบความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่าง จึงทำการวิเคราะห์ความแตกต่างเป็นรายคู่โดยวิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe Method) พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี และกลุ่มตัวอย่างที่มีวุฒิการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี มีความคิดเห็นต่อโครงการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทุ่ม(อ.ส.พ.ป.3) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ปีการศึกษา 2559 ในด้านกระบวนการและด้านผลผลิต แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05