ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง)
สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี
ผู้รายงาน กฤตยา ใจเฉื่อย
ปีที่ประเมิน 2559
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1.) เพื่อประเมินสภาพแวดล้อม (Context) ของโครงการเกี่ยวกับความต้องการจาเป็นของการทาโครงการ ความเหมาะสมและความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ และความเป็นไปได้ (2.) เพื่อประเมินปัจจัยเบื้องต้น (Input) ของโครงการเกี่ยวกับความเหมาะสมของบุคลากร ระยะเวลา ในการดาเนินงาน ความพอเพียงของงบประมาณและวัสดุอุปกรณ์ และการบริหารจัดการโครงการ (3.) เพื่อประเมินกระบวนการ (Process) ของโครงการเกี่ยวกับการดาเนินงานของกิจกรรมที่ดาเนินการตามภารกิจของโครงการ การติดตามและประเมินผลโครงการ (4.) เพื่อประเมินผลผลิต (Product) ของโครงการเกี่ยวกับผลการดาเนินงานของโครงการตามวัตถุประสงค์ (5.) เพื่อหาแนวทางการพัฒนาโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี
ประชากรที่ใช้ประเมินประกอบด้วย ผู้อานวยการสถานศึกษา ครู ผู้ปกครองและผู้เรียนที่กาลังศึกษาระดับประถมศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) ปีการศึกษา 2559 โดยจาแนกประชากรผู้ให้ข้อมูลในการประเมินโครงการได้ ดังนี้ ผู้บริหารสถานศึกษา จานวน 2 คน ครูผู้สอนในสถานศึกษา จานวน 20 คน ผู้เรียน จานวน 252 คน และผู้ปกครองผู้เรียน จานวน 252 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ แบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จานวน 5 ฉบับ ฉบับที่ 1 แบบประเมินโครงการรักการอ่านตามรูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ฉบับที่ 2 แบบประเมินพฤติกรรมผู้เรียนในการเรียนที่เกิดจากโครงการรักการอ่าน ฉบับที่ 3 แบบประเมินกิจกรรมโครงการรักการอ่าน ฉบับที่ 4 แบบสัมภาษณ์ครูผู้เข้าร่วมโครงการรักการอ่าน และฉบับที่ 5 แบบสัมภาษณ์ผู้เรียนที่เข้า โครงการรักการอ่าน เครื่องมือมีความเที่ยงตรงของเนื้อหาระหว่าง 0.80 1.00 และมีความเชื่อมั่นระหว่าง 0.92 0.98
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการประเมินครั้งนี้ คือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (X) และส่วนเบี่ยงเบียนมาตรฐาน (S.D) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการใช้โปรแกรมสาเร็จรูป
ผลการประเมินพบว่า
1. ด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อมของโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.15 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า การกาหนดเป้าหมายของโครงการมีความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมากที่สุด
2. ด้านปัจจัยนาเข้าของโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.28 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า มีครู บุคลากรรับผิดชอบโครงการเพียงพอ อยู่ในระดับมากที่สุด
3. ด้านกระบวนการของโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.62 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า มีการนิเทศ ควบคุม กากับติดตามและตรวจสอบการทางานอยู่ในระดับมากที่สุด
4. ด้านผลผลิต
4.1 ผลผลิตของโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบล กาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.57 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า กิจกรรมโครงการตรงกับความต้องการ และความพึงพอใจกิจกรรมว่างจากงานอ่านทุกคน อยู่ในระดับมากที่สุด
4.2 ผลการประเมินพฤติกรรมผู้เรียนที่เกิดจากโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.56 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ตั้งใจฟังครูอธิบาย พูดแนะนา ฯลฯ อยู่ในระดับมากที่สุด
4.3 ผลการประเมินกิจกรรมโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลาดับจากค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ กิจกรรมว่างจากงานอ่านทุกคน กิจกรรมห้องสมุดมีชีวิต กิจกรรมตะกร้าความรู้ของครูตอนเช้า กิจกรรมเสียงตามสาย กิจกรรมพี่แนะน้องทา พี่นาน้องตาม กิจกรรมชวนมาอ่าน วานมาฟัง และกิจกรรมนิทานหุ่นมือ
4.4 ผลการประเมินนิสัยรักการอ่านของผู้เรียนโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.74 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในการอ่าน อยู่ในระดับมากที่สุด
ผลการสัมภาษณ์ครู
1. ด้านปัจจัยนาเข้า ครูให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะว่า เป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อการบริหารจัดการและการจัดการเรียนการสอนอยู่ในระดับมากที่สุด กิจกรรมตามโครงการมีความเหมาะสม สามารถพัฒนาผู้เรียนและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนให้มีการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ส่งเสริมทักษะกระบวนการอ่านออกเขียนได้ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของครูที่ต้องการหาวิธีการให้เหมาะสมกับการพัฒนาผู้เรียนสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ของโครงการ มีรูปแบบกิจกรรมโครงการที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์โครงการ สามารถปฏิบัติได้ วัดผลและประเมินผลได้จริง
2. ด้านกระบวนการ ครูให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะว่า ครูผู้รับผิดชอบโครงการได้ดูแลเอาใจใส่ในการดาเนินงานตามกิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย ให้คาปรึกษา แนะนา ทบทวนกิจกรรมการดาเนินงานแก่ผู้เรียน ส่งผลต่อผู้เรียนในระดับมาก มีข้อเสนอแนะว่า ควรจัดให้มีการศึกษาดูงานและฝึกอบรมเกี่ยวกับการ
ส่งเสริมการอ่านในระดับต่าง ๆ มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านให้แก่ผู้เรียน มีกระบวนการทางานตามขั้นตอน กาหนดการปฏิทินที่วางไว้ มีการนิเทศติดตามการดาเนินงาน มอบหมายหน้าที่ได้ดีทั้งกับผู้เรียนและผู้รับผิดชอบกิจกรรมโครงการอยู่ในระดับมาก ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมตามโครงการควรมีการจัดอย่างต่อเนื่องและมีการติดตามประเมินผลการดาเนินงาน เพื่อประเมินผลการส่งเสริมการอ่านของผู้เรียนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ไม่เพียงแค่จัดกิจกรรมตามโครงการเท่านั้นแต่ควรจัดให้มีการเรียนรู้และส่งเสริมการอ่านในชั้นเรียนเพิ่มเติม
3. ด้านผลผลิต ครูให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะว่า กิจกรรมโครงการรักการอ่านโรงเรียน เทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) เป็นการบริหารจัดการโดยการมีส่วนร่วมและด้านการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาได้รับการยอมรับในระดับเห็นด้วยมากโดยได้สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการส่งเสริมการอ่านของครูที่จะส่งผลต่อผู้เรียนให้มีความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม มีการกาหนดเป็นนโยบายหลักของสถานศึกษา มีการส่งเสริมสนับสนุนวัสดุ อุปการณ์ให้ครูพัฒนากระบวนการส่งเสริมการอ่านที่รับผิดชอบ ให้งบประมาณสนับสนุนเพิ่มจากที่ได้รับจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ครูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการส่งเสริมการอ่านในระดับเห็นด้วยมาก มีการกาหนดเป้าหมายในการพัฒนาการอ่านของผู้เรียนอย่างชัดเจน โดยการออกแบบที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการได้อย่างครอบคลุม ส่งผลให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เร็วขึ้น การมีส่วนมีการประชุมในการทางานร่วมกัน มีการจัดการในการดูแลผู้เรียนในการทากิจกรรมอย่างใกล้ชิด
4. ด้านข้อมูลย้อนกลับ เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการรักการอ่านโรงเรียน เทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี ด้านผู้บริหาร พบว่าให้การสนับสนุนและส่งเสริมโครงการรักการอ่านอย่างต่อเนื่อง ให้คาแนะนา ปรึกษา นิเทศติดตาม ตรวจสอบผลการดาเนินงานอย่างเป็นระบบ ทาให้ครูทางานด้วยความมั่นใจและมีผลงานเป็นที่ยอมรับ ครูสามารถแก้ไขปัญหาพัฒนาผู้เรียนได้อย่างแท้จริง มีการวางแผนการดาเนินกิจกรรมตามโครงการ กาหนดปฏิทินการปฏิบัติงาน ติดตามและรายงานผลเป็นระยะ ด้านครู พบว่ากิจกรรมโครงการได้รับการยอมรับจากผู้ปกครอง ชุมชน สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างต่อเนื่อง ครูมีความสามารถในการจัดกิจกรรมในรูปแบบที่หลากหลายได้ส่งเสริมการอ่านให้ผู้เรียนตระหนักและรู้วิธีแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ได้รับการยอมรับเป็นผู้นาทางวิชาการเป็นเครื่องมือในการทาวิจัยในชั้นเรียนของครู ด้านผู้เรียนพบว่าผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น มีทักษะและกระบวนการอ่านเพิ่มขึ้น รู้วิธีแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง และได้รับรางวัลในการแข่งขันทักษะวิชาการในระดับต่าง ๆ
ผลการสัมภาษณ์ผู้เรียน
1. ความพึงพอใจกิจกรรมโครงการรักการอ่าน ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี พบว่า ผู้เรียนส่วนใหญ่เข้าร่วมกิจกรรมจากครูผู้สอนภาษาไทยเป็นผู้ให้คาปรึกษา แนะนา เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมแล้วเกิดความสนุกสนาน อยากเรียนรู้และได้ประสบการณ์ความรู้ที่หลากหลาย เกิดความสนใจและอยากเข้าร่วมกิจกรรมเป็นประจา ขณะเข้าร่วมกิจกรรมได้รับความสนุกเพลิดเพลิน มีความภาคภูมิใจเพราะทาให้อ่าน
หนังสือได้คล่องขึ้น กิจกรรมโครงการรักการอ่านช่วยให้ผู้เรียนอ่านคล่องและอ่านเร็วขึ้น เขียนสะกดคาได้คล่องและถูกต้อง ฟังและจับใจความได้มากขึ้น โดยกิจกรรมโครงการที่ผู้เรียนชอบมากที่สุด คือ กิจกรรมว่างจากงานอ่านทุกคน กิจกรรมห้องสมุดมีชีวิต กิจกรรมตะกร้าความรู้ของครูตอนเช้า กิจกรรมเสียงตามสาย กิจกรรมพี่แนะน้องทา พี่นาน้องตาม กิจกรรมชวนมาอ่าน วานมาฟัง และกิจกรรมนิทานหุ่นมือ ตามลาดับ
2. พฤติกรรมการอ่านของผู้เรียนที่ได้จากกิจกรรมรักการอ่าน เมื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมของผู้เรียนก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรมโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบล กาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี พบว่า หลังจากผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการรักการอ่าน ผู้เรียนมีพฤติกรรมการอ่านที่ดีขึ้น โดยผู้เรียนมีการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นจากเดิมเพราะอ่านหนังสือได้คล่องขึ้น ได้รับคาแนะนาและการทบทวนบทเรียนจากครูผู้รับผิดชอบกิจกรรม มีความสนุกสนานเพลิดเพลินกับเรื่องที่อ่าน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการอ่านโดยการซื้อหนังสืออ่านเพิ่มขึ้น อ่านหนังสือเพื่อทบทวนบทเรียนเพิ่มขึ้น สนใจใบงานใบความรู้ที่ครูให้อ่านมากขึ้น เปิดพจนานุกรมค้นหาความหมาย ซักถามครูผู้สอนและตอบคาถามเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผู้เรียนยังเกิดความภาคภูมิใจในการอ่านออกเขียนคล่องของตนเอง โดยสนใจเข้าเรียนตรงเวลา ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเต็มที่และมีการจดบันทึกเรื่องที่อ่าน
3. นิสัยรักการอ่านของผู้เรียน เมื่อผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมโครงการรักการอ่านโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านไร่หลวง) สังกัดเทศบาลตาบลกาญจนดิษฐ์ อาเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี พบว่า ผู้เรียนอ่านหนังสือเรียนบ่อยครั้งขึ้น เพื่อเป็นการทบทวนบทเรียนและค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมจากเรื่องที่อ่าน นอกจากนี้ผู้เรียนยังอ่านหนังสืออื่นที่ไม่ใช่หนังสือเรียนเพิ่มขึ้น คือ นิทาน การ์ตูน ทายปัญหา นิตยสาร หนังสือพิมพ์ วารสารและหนังสือที่ให้ความรู้ทั่วไป ผู้เรียนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เวลาว่างมาอ่านหนังสือมากขึ้น เข้าห้องสมุดโรงเรียนเป็นประจาทุกวันหลังเลิกเรียนและพักกลางวัน โดยสถิติการยืม-คืนหนังสือของผู้เรียนแต่ละคนในห้องสมุดโรงเรียนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เล่มต่อภาคเรียน